“ALPHAX”
สยายปีกปี 65 พัฒนา 3 ธุรกิจ “อสังหาฯ-กัญชงกัญชา-ไฟแนนซ์” หนุนอนาคตโตทะยาน
บมจ.อัลฟ่า ดิวิชั่นส์ (ALPHAX) เปิดศักราชปีเสือทอง ลุยขยายธุรกิจใหม่ ล่าสุดบอร์ดอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียน 108.90 ล้านหุ้น จัดสรรแบบพีพีให้กับ"บริษัท บี ริช โฮลดิ้ง" ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท มหทุน โฮลดิ้ง จำกัด (MHTH) เพื่อแลกถือหุ้น 76.78 % มูลค่ารวม 201.46 ล้านบาท พร้อมได้สิทธิเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท มะหะทุน เช่าสินเชื่อ มหาชน ผู้นำธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใน สปป.ลาว มีฐานะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลาว ฟากซีอีโอ"ธีร ชุติวราภรณ์" ระบุการเข้าลงทุนในครั้งนี้เป็นการแตกไลน์ธุรกิจใหม่ สนับสนุนรายได้กำไรโตก้าวกระโดด เผยปีนี้ตั้งเป้ารายได้พุ่ง 200% รับรู้รายได้จาก 3 ธุรกิจเติบโต อสังหาริมทรัพย์, กัญชง-กัญชา และไฟแนนซ์ ดันอนาคตสดใส สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น
นายธีร ชุติวราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัลฟ่า ดิวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือALPHAX หรือเดิมคือ บริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช จำกัด (มหาชน) หรือ OCEAN เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2565 มีมติอนุมัติการเข้าทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์โดยการซื้อหุ้นสามัญของบริษัท มหทุน โฮลดิ้ง จำกัด (“MHTH”) รวม 7,677,500 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท ในราคาซื้อขายประมาณหุ้นละ 26.240964 บาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 76.78 ของทุนจดทะเบียนของ MHTH จากบริษัท บี ริช โฮลดิ้ง จำกัด ด้วยมูลค่าการเข้าทำรายการรวมเท่ากับ 201,465,000 บาท โดยวิธีการโอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer : EBT) ภายหลังการทำธุรกรรมดังกล่าว MHTH จะถือเป็นบริษัทย่อยของบริษัท และบริษัทฯจะถือหุ้นในสัดส่วน 76.78%
โดยบริษัทฯจะชำระค่าหุ้นสามัญของ MHTH โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทในลักษณะการเสนอขายแบบเฉพาะเจาะจงให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ให้แก่ผู้ขาย แทนการชำระด้วยเงินสด จำนวนไม่เกิน 108,900,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1.85 บาท คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 201,465,000 บาท (หรืออีกนัยหนึ่งคือผู้ขายจะจองซื้อหุ้นสามัญใหม่ของบริษัท โดยจะชำระเงินค่าหุ้นออกใหม่ด้วยหุ้นของ MHTH ที่ตนถืออยู่ (Share Swap) โดยคิดเป็นอัตราแลกเปลี่ยนหุ้นเท่ากับ 1.000000 หุ้นของ MHTH ต่อ 14.184305 หุ้นใหม่ของบริษัท ซึ่งบริษัทมีความเห็นว่าราคาดังกล่าวนั้นเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหุ้นเมื่อพิจารณาถึงมูลค่าของ MHTH และมูลค่าหุ้นปัจจุบันของบริษัท
ทั้งนี้ที่ประชุมมีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2565 ในวันที่ 4 มีนาคม 2565 เวลา 10.00 น. ด้วยวิธีการผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุม (Record Date) ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 27,225,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 452,418,389.50 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 479,643,389.50 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวนไม่เกิน 108,900,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด ได้แก่ บริษัท บี ริช โฮลดิ้ง จำกัด เพื่อเป็นค่าตอบแทนสำหรับหุ้นสามัญของ MHTH โดยวิธีการแลกหุ้น
"การเข้าลงทุนในครั้งนี้เป็นการแตกไลน์ก้าวเข้าสู่ธุรกิจไฟแนนซ์ ซึ่งภายหลังจากการเข้าไปลงทุนในบริษัท MHTH จะทำให้ ALPHAX กลายบริษัทฯ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท มะหะทุน เช่าสินเชื่อ มหาชน ซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และยังมีฐานะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลาว ซึ่งมีความสามารถในการทำกำไรสุทธิในระดับสูง จะช่วยสนับสนุน ALPHAX มีรายได้ และกำไรเติบโตอย่างก้าวกระโดด"
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวอีกว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 2565 บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 200% โดยจะมุ่งเน้นพัฒนาทั้ง 3 ธุรกิจ โดยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เตรียมจะเปิดตัวโครงการที่เน้นไปทางแนวราบ และโครงการอาคารสำนักงานเพื่อเช่า คาดว่าในปีนี้จะมีการเปิดตัวโครงการทั้งหมด 4-5 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยยังคงมองหาที่ดินที่สามารถพัฒนา Product ที่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้จริงๆ เช่น บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดในพื้นที่นอกเมือง
ขณะที่ ธุรกิจกัญชง-กัญชา คาดว่าจะได้ใบอนุญาตการสกัดภายในไตรมาส 1/2565 และจะเร่งเปิดตัวลูกค้าที่เป็นพันธมิตร เพื่อเร่งวิจัยและพัฒนาสารสกัดให้พร้อมสำหรับเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่เป็น Production scale ซึ่งที่จะเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลัง
ส่วนธุรกิจไฟแนนซ์ที่ สปป.ลาว วางเป้าหมายเบื้องต้นไว้ว่าจะเข้าไปทำการตลาดให้มากขึ้น รวมทั้งขยายผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น นาโนไฟแนนซ์ และ เครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นต้น ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะมีการรับรู้รายได้จากบริษัท มะหะทุน เช่าสินเชื่อ มหาชน ซึ่งแต่ละปีจะมีกำไรจากการดำเนินงานไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท