รัฐนิวยอร์กยกเลิกมาตรการสวมหน้ากากอนามัยในอาคาร หลังยอดติดเชื้อโควิดลดลง
รัฐนิวยอร์กของสหรัฐประกาศยกเลิกมาตรการบังคับสวมหน้ากากอนามัยภายในอาคาร รวมถึงข้อบังคับให้แสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนเมื่ออยู่ภายในอาคาร เช่นเดียวกับรัฐนิวเจอร์ซีย์, คอนเนกติกัต, เดลาแวร์, โอเรกอน และแคลิฟอร์เนีย หลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันลดลงในช่วงที่ผ่านมา
นางเคธี โฮซูล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กประกาศว่า รัฐนิวยอร์กตัดสินใจยกเลิกมาตรการบังคับสวมหน้ากากอนามัยและการแสดงหลักฐานฉีดวัคซีนในสถานที่ธุรกิจตั้งแต่วันนี้ (10 ก.พ.) อย่างไรก็ดี ภาคธุรกิจ สถานที่ราชการในรัฐ และเมืองต่าง ๆ ในรัฐยังมีสิทธิบังคับใช้มาตรการดังกล่าวต่อไปได้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐนิวยอร์กได้บังคับใช้มาตรการบังคับสวมหน้ากากอนามัยและฉีดวัคซีนเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ปีที่แล้ว เนื่องจากไวรัสโอมิครอนได้แพร่ระบาดและส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น
นางโฮซูลกล่าวว่า เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อเริ่มลดลง และยอดผู้ป่วยโควิด-19 ในโรงพยาบาลก็ลดลงมากเช่นกัน จึงไม่จำเป็นต้องบังคับใช้มาตรการดังกล่าว
อย่างไรก็ดี รัฐนิวยอร์กยังคงบังคับใช้มาตรการสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่แออัด เช่น โรงพยาบาล, สถานบริบาล, สถานพักพิง, ระบบขนส่ง และสถานที่อื่น ๆ ที่เข้าข่ายมีความเสี่ยงสูง
"แม้เราจะทำถูกต้อง แต่โรคระบาดก็ยังไม่จบ" นางโฮซูลกล่าว และเสริมว่า รัฐนิวยอร์กจะประเมินการบังคับใช้มาตรการสวมหน้ากากอนามัยในโรงเรียนอีกครั้งในช่วงต้นเดือนมี.ค.นี้ โดยพิจารณาจากข้อมูลด้านสาธารณสุข