͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: คู่ควรกับคำชม! เปิดผลงานสุดโหดของคู่ฟูลแบ็ก ลิเวอร์พูล  (อ่าน 87 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Thetaiso

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 9362
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด


"ผมไม่คิดว่าเคยเห็น 2 ฟูลแบ็กคู่ไหนใน พรีเมียร์ลีก ที่จับคู่กันแล้วสามารถทำผลงานได้ดีเท่ากับ 2 คนนี้มาก่อนเลย การประสานงานกันของพวกเขาในสนามและแนวทางการเล่นของพวกเขามันเป็นสิ่งที่ดูแล้วทำให้รู้สึกเพลิดเพลินสุดๆ"
    นั่นคือคำพูดส่วนหนึ่งของ แกรี่ เนวิลล์ ตำนานแบ็กขวาของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่พูดเอาไว้ในรายการพ็อดแคสต์ของเขาหลังจบเกมลีกที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยมันเป็นการสื่อถึง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน คู่ฟูลแบ็กของ ลิเวอรพูล หลังจากในเกมนั้นทั้งคู่ต่างก็ทำได้คนละ 1 แอสซิสต์ แถม โรเบิร์ตสัน ยังทำประตูได้ด้วย ก่อนที่เจ้าตัวจะโดนใบแดงไล่ออกจากสนามในนาทีที่ 77

    แน่นอน ฟูลแบ็กถือเป็นหนึ่งในตำแหน่งที่สำคัญของเกมฟุต.อยู่แล้ว แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กับ โรเบิร์ตสัน ถือว่ามีส่วนสำคัญกับเกมการเล่นมากกว่าฟูลแบ็กหลายคน ซึ่งเพื่อเป็นการตอกย้ำถึงเรื่องนั้นวันนี้เราเลยจะมาลองดูกันว่าตั้งแต่ฤดูกาล 2018-19 เป็นต้นมา หรือก็คือตั้งแต่ซีซั่นที่ ลิเวอร์พูล ได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นั้น ผลงานของคู่ฟูลแบ็กของ ลิเวอร์พูล มันโดดเด่นแค่ไหนหากเปรียบเทียบกับนักเตะ "ทุกคนและทุกตำแหน่ง" ของ พรีเมียร์ลีก

    - โรเบิร์ตสัน
    ตลอดช่วง 4 ฤดูกาลนิดๆ ที่ผ่านมานั้น โรเบิร์ตสัน พยายามมีส่วนร่วมกับเกมบุกอย่างเต็มที่จนมีจังหวะพยายามผ่าน.เข้าพื้นที่สุดท้าย 2,802 ครั้ง ซึ่งนั่นทำให้เขาเป็นนักเตะที่มีจังหวะพยายามทำแบบนั้นเยอะที่สุดของ พรีเมียร์ลีก ในช่วงเวลาดังกล่าว ไม่ว่าจะเปรียบเทียบกับคนในตำแหน่งไหนก็ตาม

คู่ควรกับคำชม! เปิดผลงานสุดโหดของคู่ฟูลแบ็ก ลิเวอร์พูล
 

    นอกจากนี้ โรเบิร์ตสัน ยังมีส่วนสำคัญในการขึ้นเกมบุกมากๆ จนได้จับ.มากถึง 11,518 ครั้ง ซึ่งถือว่ามากเป็นอันดับ 1 ของ พรีเมียร์ลีก ด้วย และเขาก็ยังมีจังหวะพยายามครอส.เข้ากลาง 729 หน สูงที่สุดเป็นอันดับ 4 ของลีกเช่นกัน

 

คู่ควรกับคำชม! เปิดผลงานสุดโหดของคู่ฟูลแบ็ก ลิเวอร์พูล
 

    ขณะเดียวกัน นับตั้งแต่ฤดูกาล 2018-19 เป็นต้นมานั้น โรเบิร์ตสัน สามารถทำแอสซิสต์ในลีกไปได้รวมแล้วถึง 35 หนเลยทีเดียว ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาเป็นนักเตะที่มีผลงานด้านนี้ดีที่สุดเป็นอันดับ 2 ของลีกในช่วงเวลาดังกล่าว ส่งผลให้โดยรวมแล้วเขามีจังหวะสร้างโอกาสทำประตูไป 203 ครั้ง สูงที่สุดเป็นอันดับ 8 ของลีก

    - อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
    ในขณะที่ โรเบิร์ตสัน มีชอตพยายามผ่าน.เข้าพื้นที่สุดท้ายมากเป็นอันดับ 1 ของ พรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ฤดูกาล 2018-19 เป็นต้นมา อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก็ตามมาติดๆ เป็นอันดับ 2 ในชาร์ตนี้ เพียงแต่ตัวเลขยังถือว่าอยู่ห่างจาก โรเบิร์ตสัน พอตัว หลังจากเขามีชอตแบบนั้น 2,692 หน

 

คู่ควรกับคำชม! เปิดผลงานสุดโหดของคู่ฟูลแบ็ก ลิเวอร์พูล
 

    ทั้งนี้ แบ็กขวาทีมชาติอังกฤษยังตามหลังแบ็กซ้ายชาวสกอตต์ในด้านการจับ.มาแบบหายใจรดต้นคอด้วย หลังจากเขาเป็นที่ 2 ในด้านนี้ ด้วยการได้จับ.ไป 11,207 ครั้ง แต่หากวัดกันที่การพยายามครอส.เข้ากลางแล้วนั้น อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ทำได้มากกว่าเยอะจากการทำไป 1,021 หน ทำให้เขาเป็นที่ 1 ของ พรีเมียร์ลีก ในชาร์ตนี้

 

คู่ควรกับคำชม! เปิดผลงานสุดโหดของคู่ฟูลแบ็ก ลิเวอร์พูล
 

    สิ่งที่น่าทึ่งก็คือตั้งแต่ฤดูกาล 2018-19 เป็นต้นมานั้น อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ คือคนที่ทำแอสซิสต์ได้เยอะที่สุดของ พรีเมียร์ลีก ที่จำนวน 40 ครั้งด้วยกัน หากหลายคนสงสัยว่า เควิน เดอ บรอบน์ มิดฟิลด์ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หายไปไหนนั้น คำตอบก็คือในช่วงเวลาเดียวกัน เดอ บรอยน์ ทำแอสซิสต์ในลีกได้ 34 ครั้ง แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะดาวเตะชาวเบลเยียมเคยได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงจนได้ลงเล่นในฤดูกาล 2018-19 ในเกมลีกไปแค่ 19 นัด

    ขณะที่หากนับรวมจังหวะการสร้างโอกาสทำประตูให้กับทีมแล้วล่ะก็ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ มีจังหวะแบบนั้นถึง 263 ครั้ง และส่งผลให้เขาเป็นนักเตะที่ทำผลงานด้านนี้ได้ดีเป็นอันดับ 2 ของ พรีเมียร์ลีก เลยทีเดียว