͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: AP ลุยเปิดแนวราบ 12 โครงการใหม่รับโค้งสุดท้ายของปีหลังโตฝ่าล็อกดาวน์  (อ่าน 97 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Ailie662

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 14271
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) (AP) กล่าวว่า ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต้องเผชิญกับความท้าทายและภาวะผันผวนที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 โดยเฉพาะมาตราการการล็อกดาวน์ที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 3/64

แต่อย่างไรก็ดีในช่วงโค้งสุดท้ายของปีคาดว่าสถานการณ์ต่างๆ จะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ทั้งกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และเซนทิเมนต์ ของผู้บริโภคที่เริ่มดีขึ้น และจากการผ่อนคลายมาตรการ LTV ไปถึงปีสิ้นปี 65 ถือเป็นสัญญาณบวกที่ดี ที่นอกจากจะกระตุ้นภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้ฟื้นกลับแล้ว ยังช่วยขับเคลื่อนภาคธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้องได้อีกด้วย

บริษัทสามารถสร้างยอดขายรวมถึง ณ สิ้นเดือนต.ค. 64 หรือยอดขาย 10 เดือน ได้มากถึง 31,210 ล้านบาท คิดเป็น 88% จากเป้าหมายยอดขาย 35,500 ล้านบาท เป็นสัดส่วนยอดขายจากโครงการแนวราบ 28,594 ล้านบาท

ขณะเดียวกันสินค้าแนวราบยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 64 อีกจำนวน 12 โครงการ มูลค่ารวม 8,570 ล้านบาท แบ่งเป็นทาวน์โฮม 9 โครงการ มูลค่ารวม 5,010 ล้านบาท ด้วยจุดขาย "พลิกแนวคิดชีวิตแนวตั้ง" กับทาวน์โฮมแบรนด์บ้านกลางเมือง และพลีโน่ พร้อมบ้านเดี่ยวแบรนด์เซนโทร (CENTRO) 3 โครงการใหม่ มูลค่า 3,560 ล้านบาท กับการเน้นย้ำจุดยืน "บ้านที่เข้าใจชีวิต"


"ปีนี้เป็นอีกปีที่ซุปเปอร์สตาร์ของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คือสินค้ากลุ่มแนวราบ สะท้อนได้จากตัวเลขทั้งยอดขายและยอดโอนของบริษัทฯ ที่ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเป็นการเติบโตแบบ Organic Growth ที่สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพขององค์กรได้อย่างชัดเจน ถึงแม้ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาเราทุกคนจะต้องเผชิญกับการล็อกดาวน์ที่ส่งผลต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจอย่างมาก แต่เรายังคงรักษาสถานะ การเติบโตได้อย่างคงที่" นายวิทการ กล่าว
โดยผลการดำเนินงาน 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้รวมจากสินค้าแนวราบ กลุ่มคอนโดมิเนียม (รวม 100% JV) และธุรกิจอื่นๆ รวมทั้งสิ้น 30,324 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิมากถึง 3,549 ล้านบาท ด้านสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนอยู่ในระดับต่ำมากเพียง 0.56 เท่า ซึ่งทั้งหมดล้วนสะท้อนถึงความสามารถ ในการบริหารจัดการภายในองค์กร ควบคู่ไปกับการบริหารพอร์ตสินค้า และการบริหารกระแสเงินสดที่รัดกุมและมีประสิทธิภาพท่ามกลางภาวะผันผวนที่เกิดขึ้น

บริษัทยังคงดำเนินแผนธุรกิจด้วยความรัดกุม ควบคู่ไปกับความพร้อมที่จะปรับตัวอย่างรวดเร็ว ด้วย การบริหารจัดการกระแสเงินสด ภายใต้พันธกิจใหญ่ขององค์กร ?EMPOWER LIVING? ที่พร้อมส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ ด้วยนวัตกรรมสินค้าและบริการที่มีคุณค่าและมีความหมาย