͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: เคลียร์ชัด! เอสเซนส์กับเซรั่มต่างกันอย่างไร และอะไรที่เหมาะกับคุณ  (อ่าน 101 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ damonshoppu

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 687
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
ว่ากันว่าทั้งเอสเซนส์และเซรั่มต่างก็บำรุงผิวหน้าได้มีประสิทธิภาพพอ ๆ กัน แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าทั้งสองผลิตภัณฑ์นี้แตกต่างกันอย่างไร จำเป็นต้องเลือกตัวใดตัวหนึ่งหรือไม่ แล้วใครเหมาะจะใช้อะไรกันแน่ วันนี้เรามาไขข้อสงสัยนี้กันด้วยการเปรียบเทียบกันชัด ๆ ไปเลย

1. อนุภาคของผลิตภัณฑ์

เซรั่ม เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่มีโมเลกุลเล็กกว่าครีมบำรุงผิวอื่น จึงซึมลงผิวหน้าได้ดีเยี่ยม แถมด้วยสารอาหารผิวเข้มข้นเพื่อการบำรุงเฉพาะจุด แยกชัดเจนสำหรับปัญหาผิวแต่ละแบบ เช่น เซรั่มลดเลือนจุดด่างดำ เซรั่มลดเลือนริ้วรอย หรือเซรั่มเติมความชุ่มชื้นให้ผิว เป็นต้น ส่วน เอสเซนส์ เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอนุภาคเล็กเช่นเดียวกัน ดังนั้นเรื่องของการซึมเข้าสู่ผิวได้ดีนั้นถือว่ามีประสิทธิภาพใกล้เคียงกันทีเดียว

2. เนื้อผลิตภัณฑ์

ว่าด้วยเรื่องเนื้อผลิตภัณฑ์ ด้วยความที่มีเนื้อผลิตภัณฑ์พื้นฐานต่างกันจึงทำให้มีเนื้อผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกัน โดยเซรั่มจะมีส่วนผสมของน้ำมันเป็นพื้นฐาน ดังนั้นจะช่วยเรื่องการฟื้นฟูผิวหน้า ยกกระชับ และลดเลือนริ้วรอยได้มากกว่า เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้งมากกว่าคนที่มีผิวมัน ด้วยความมีน้ำมันเป็นฐานนั่นเอง ส่วนเอสเซนส์จะมีน้ำเป็นส่วนประกอบพื้นฐานทำให้อุดตันผิวน้อยกว่าและเหมาะกับผู้ที่มีผิวมันมากกว่า ช่วยในเรื่องของการเติมความชุ่มชื้น

3. ประสิทธิภาพการบำรุงผิว

ว่ากันว่าความจริงแล้วระหว่างเซรั่มกับเอสเซนส์สามารถเลือกใช้เฉพาะตัวใดตัวหนึ่งได้เลย ด้วยความที่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสองชนิดนี้ มีโมเลกุลเล็กเหมือนกัน เนื้อบางเบาพอ ๆ กัน แถมสารอาหารสำหรับผิวที่เป็นส่วนประกอบภายในผลิตภัณฑ์ก็พอ ๆ กันด้วย ทำให้ในเรื่องของการซึมเข้าผิวอย่างรวดเร็ว หรือการบำรุงที่ล้ำลึกก็มีประสิทธิภาพพอกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นหลายคนที่มีปัญหาเฉพาะจุดที่ต้องการแก้ไขแบบเฉพาะเจาะจง เช่น ปัญหาผิวหมองคล้ำ หรือ รูขุมขนกว้างก็แนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเซรั่มเฉพาะสูตรที่แก้ไขในจุดนั้นไปเลยจะดีกว่า เพราะส่วนมากแล้วเอสเซนส์จะช่วยในเรื่องของการเป็นตัวตั้งต้นในการดึงสารบำรุงจากครีมบำรุงตัวอื่น ๆ ให้เข้าสู่ผิวหน้ามากขึ้นมากกว่า แต่ก็ด้วยเหตุนี้ หากใครจำเป็นต้องใช้ครีมบำรุงผิวที่หลากหลาย ก็แนะนำให้ใช้เอสเซนส์เป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับครีมบำรุงผิวอื่น ๆ ที่ใช้ตามหลัง

หากไม่อยากลงทุนกับเอสเซนส์หรือเซรั่มหลายขวดเพื่อช่วยแต่ละปัญหาผิว แนะนำให้ใช้เอสเซนส์ทรงประสิทธิภาพอย่าง Lancome Clarifique Dual Essence น้ำตบลังโคมมากคุณสมบัติในขวดเดียว ช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นถึง 4 มิติ ผิวชุ่มชื้น ดูกระจ่างใส สีผิวดูสม่ำเสมอและเรียบเนียนได้ใน 4 สัปดาห์ สามารถใช้ได้กับผิวทุกประเภทแม้ผิวบอบบาง แถมช่วยให้ดูขุมขนดูเล็กลงอีกด้วย

4. ลำดับการลงผลิตภัณฑ์บนผิวหน้า

อย่างที่บอกไปแล้วว่า ปกติเซรั่มและเอสเซนส์สามารถใช้แทนกันได้ ดังนั้น ลำดับการลงผลิตภัณฑ์ก็จะอยู่ในขั้นตอนเดียวกัน ก็คือหลังจากทำความสะอาดผิวหน้าและเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์แล้ว ก็มักจะลงเซรั่มหรือเอสเซนส์เลยเป็นอันดับแรก เรียกได้ว่าเป็นการบูสต์ผิวเพื่อรอรับครีมบำรุงตัวอื่น ๆ ตามมา ข้อสำคัญที่อยากเตือนสาว ๆ ในการใช้ผลิตภัณฑ์ทั้งสองอย่างคือ แม้จะใช้เพื่อการบำรุงก็จริง แต่เรื่องการให้ความชุ่มชื้น ทั้งสองผลิตภัณฑ์ก็ยังทำงานสู้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ดูแลเรื่องเติมความชุ่มชื้นให้ผิวไม่ได้จริง ๆ ดังนั้น แม้จะลงเซรั่มหรือเอสเซนส์แล้วก็ต้องห้ามลืมลงมอยส์เจอร์ไรเซอร์ตบท้ายด้วยนะ

เห็นกันแล้วใช่ไหมว่าจริง ๆ ทั้งเซรั่มและเอสเซนส์ไม่ได้มีข้อแตกต่างกันมากมาย ดังนั้นข้อแนะนำก็คือเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพและปัญหาผิวของแต่ละคนก็พอ แอบกระซิบว่าเวลาเปิดใช้ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ อย่าลืมทดลองใช้บริเวณข้างแก้มก่อนเพื่อทดสอบการแพ้กันด้วย ไม่งั้นเกิดแพ้ขึ้นมาจะหาว่าไม่เตือน