͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: GRAMMY จับมือพันธมิตรเตรียมเปิดตัวสินทรัพย์ดิจิทัล NFT คาดชัดเจนใน Q1/65  (อ่าน 114 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Thetaiso

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 9362
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
นายธนากร มนูญผล รองกรรมการผู้อำนวยการหน่วยงาน Group Investment บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY) เปิดเผยว่าบริษัทเตรียมเปิดตัวธุรกิจ NFT ซึ่งเป็นการร่วมมือกับพันธมิตรที่ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรหลายราย โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนในการเปิดตัวธุรกิจ NFT ในช่วงไตรมาส 1/65

ส่วนธุรกิจ NFT ที่บริษัทจะเปิดตัวมานั้น จะเป็นการนำคอนเทนท์และสินค้าต่างๆของบริษัทมาเปลี่ยนสู่รูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งจะมีการออกเป็น NFT ออกมา เพื่อให้บริษัทสามารถสร้างรายได้ใหม่ๆเข้ามาจากช่องทางดิจิทัลได้ ซึ่งเป็นตามการเปลี่ยนแปลงของสังคมและเทคโนโลยีในปัจจุบันที่ก้าวสู่การเป็นเศรษฐกิจยุคดิจิทัล (Digital Economy)

"เราคงไม่ทำแพลตฟอร์มเองขึ้นมา แต่เราจะไปร่วมกับพันธมิตรที่ทำแพลตฟอร์ม Digital Asset อยู่แล้ว ซึ่งมีคุยหลายราย แล้วเราจะนำ Content และ Inventory ที่เรามีมา Convert เป็น Digital asset ในรูปแบบ NFT ทำให้เรามีรายได้ใหม่ๆเข้ามาจาก Digital มากขึ้น" นายธนากร กล่าว
สำหรับแนวโน้มภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 64 นายธนากร มั่นใจว่าแนวโน้มของกำไรจะมากกว่าปีก่อนและเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด แม้ว่าในส่วนของรายได้ในปี 64 จะยังค่อนข้างทรงตัวจากปีก่อน เพราะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้รายได้จากธุรกิจบริหารจัดการศิลปินและธุรกิจจัดงานคอนเสริต์และอีเว้นท์ในปีนี้หายไป ซึ่งมีสัดส่วนรายได้รวมกันกว่า 30-40% ของรายได้รวม

ขณะที่ธุรกิจเพลงที่เป็นธุรกิจหลักที่มีดส่วนรายได้ราว 46% ยังมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรายได้ที่มาจากช่องทางดิจิทัล อีกทั้งยังมีแรงกดดันจากภาพยนตร์ในเครือ GDH ในปีนี้ที่เข้าฉายได้เพียง 3 เรื่อง จากแผนที่วางไว้ 6 เรื่อง ทำให้มีแรงกดดันรายได้เข้ามามาก

ADVERTISEMENT


อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกำไรได้รับปัจจัยหนุนจากผลการดำเนินงานที่ดีของ บมจ.เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ (ONEE) และรายได้ที่แข็งแกร่งของธุรกิจ Digital music รวมถึงธุรกิจอื่นที่บริษัทลงทุน ทำให้มี Normalize Profit ที่มาจากการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนของปี 64 จำนวน 217 ล้านบาท ซึ่งยังสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งส่งผลหนุนต่อการเติบโตของกำไรให้กับบริษัท

ส่วนในปี 65 บริษัทมองว่าหากไม่มีปัจจัยการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่เข้ามากระทบกับกิจกรรมในประเทศ คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวของรายได้กลับมา โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจบริหารจัดการศิลปินและธุรกิจจัดงานคอนเสิร์ตและอีเว้นท์ ที่คาดว่าจะสามารถเริ่มกลับมาได้ในปีหน้า ขณะที่ธุรกิจเพลงยังคงมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และยังมีธุรกิจ NFT ที่เข้ามาเสริมรายได้ รวมถึงการฉายภาพยนตร์ในเครือ GDH ที่วางแผนเข้าฉายในปี 65 ไว้จำนวน 5 เรื่อง หากเป็นไปตามแผนคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวของรายได้กลับมาในปี 65 ได้