͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (6 ตุลาคม 2564)  (อ่าน 174 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ deam205

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15570
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด


ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มต่อ ตอบรับการคงมติการปรับเพิ่มกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปคพลัส 4 แสนบาร์เรลต่อวัน ในเดือน พ.ย.64

+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดราคาเวสต์เทกซัสปรับตัวขึ้นไปแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 57 ขณะที่ ราคาเบรนท์ขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี หลังตลาดน้ำมันมีแนวโน้มอยู่ในภาวะตึงตัวมากขึ้นจากผลการประชุมของกลุ่มโอเปคและประเทศพันธมิตร (โอเปคพลัส) ที่จะยังคงปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบเพียง 4 แสนบาร์เรลต่อวัน ในเดือน พ.ย.64 ตามแผนเดิมที่ได้วางไว้ก่อนหน้า แม้ว่าผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ เช่น สหรัฐฯ และอินเดีย จะออกมาเรียกร้องให้กลุ่มโอเปคพลัส ปรับเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้นกว่าแผนที่วางไว้ โดยก่อนหน้านี้ กลุ่มโอเปคพลัส คาดว่าภาพรวมปี 64 การผลิตน้ำมันดิบจะขาดดุลจากความต้องการใช้ราว 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน

- หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 1 ต.ค. 64 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.95 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 419.45 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะปรับตัวลดลงราว 0.4 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในภูมิภาคเอเชียได้รับแรงหนุนจากวันหยุดยาวประจำปีของจีน (Golden Week) ขณะที่ความต้องการใช้ในประเทศอื่นๆ ยังคงฟื้นตัวตามสถานการณ์โควิด-19 ที่ดีขึ้น

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปทานน้ำมันดีเซลในภูมิภาคที่อยู่ในระดับต่ำ จากปริมาณการส่งออกของผู้ผลิตในจีนและเอเชียเหนือที่ปรับตัวลดลง ขณะที่ความต้องการใช้ยังคงมีแนวโน้มฟื้นตัวตามการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์