͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: 'กรมป่าไม้-อุตสาหกรรมป่าไม้-กฟผ.' ร่วมพัฒนาโรงไฟฟ้าชุมชน  (อ่าน 117 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Chanapot

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 14700
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด


วันนี้ (21 ก.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา นายอดิศร นุชดำรงค์ อธิบดีกรมป่าไม้ นายสุกิจ จันทร์ทอง รองผู้อำนวยการ รักษาการแทน ผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ และ ดร.จิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน เพื่อสนับสนุนองค์ความรู้ทางด้านวิชาการ และพื้นที่สำหรับการทดลองปลูกพืชพลังงาน ตลอดจนการดำเนินงานวิจัยต้นแบบเชิงธุรกิจโรงไฟฟ้าชุมชน อันนำไปสู่การส่งเสริม ให้ชุมชนหันมาปลูกพืชพลังงาน เพิ่มพื้นที่สีเขียว ลดการทำการเกษตรพืชเชิงเดี่ยวซึ่งเป็นสาเหตุของมลภาวะในอากาศ อีกทั้ง เป็นการสร้างรายได้จากเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เกิดการจ้างงาน และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนในพื้นที่

ดร.จิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ กฟผ. กล่าวว่า ปัจจุบัน กฟผ. อยู่ระหว่างดำเนินการศึกษาและพัฒนาโครงการ วิจัยต้นแบบเชิงธุรกิจโรงไฟฟ้าชุมชนตามที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงพลังงาน จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ โรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ ขนาดกำลังการผลิต 3 เมกะวัตต์ ที่ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ และโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดกำลังการผลิต 3 เมกะวัตต์ ที่ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ตามแนวทางบูรณาการความมั่นคงด้านน้ำ อาหาร และพลังงาน โดยมุ่งเน้นที่การแก้ปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคมในพื้นที่ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้ยั่งยืน และเพื่อให้เป็นต้นแบบในการขยายผลไปยังพื้นที่ที่เหมาะสมต่อไปได้ ในอนาคต โดยความร่วมมือจากทั้งกรมป่าไม้ และองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ครั้งนี้จะเป็นการช่วยสนับสนุนข้อมูลองค์ความรู้ และทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อให้การดำเนินงานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

ด้าน นายอดิศร นุชดำรง อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวถึง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ พื้นที่เป้าหมายในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้า ชุมชนของ กฟผ. ว่า พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติซึ่งมีชุมชนเข้าไปทำการเกษตรพืชเชิงเดี่ยวที่ก่อให้เกิดผลกระทบ ต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งสารเคมีตกค้างทางการเกษตร ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากการบุกรุกทำลายป่า และมลพิษด้านอากาศจาก การเผาเศษวัสดุทางการเกษตรที่เหลือใช้ดังนั้น การมีโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนแม่แจ่ม นอกจากจะช่วยสร้างพลังงานไฟฟ้า ให้กับชุมชนแล้ว ยังช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ได้อีกด้วย ทั้งจากการส่งเสริมปลูกไม้โตเร็วพืชพลังงาน การฟื้นฟูพื้นที่ ต้นน้ำลำธาร ซึ่งล้วนส่งผลให้มีระบบนิเวศอุดมสมบูรณ์และสร้างความผาสุกให้แก่คนในชุมชนได้อย่างยั่งยืน ฉบับที่ 141/2564 วันที่ 17 ก.ย.64

ทางด้าน นายสุกิจ จันทร์ทอง รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ กล่าวว่า โรงไฟฟ้าชุมชน แม่แจ่ม เป็นส่วนหนึ่งของโครงการศึกษาวิจัยต้นแบบเชิงธุรกิจโรงไฟฟ้าชุมชน ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการวิจัยด้านพืชพลังงาน สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี เพื่อเป็นต้นแบบการดำเนินงานให้กับโรงไฟฟ้าชุมชนในพื้นที่ต่าง ๆ การสนับสนุนบุคลากร องค์ความรู้ และคำแนะนำเกี่ยวกับการปลูกไม้โตเร็วพืชพลังงาน รวมถึงให้การสนับสนุนพื้นที่สำหรับใช้ในการทดลองปลูก เพื่อศึกษา และคัดเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสม จึงนับเป็นการสนับสนุนที่จะช่วยให้บรรลุผลสำเร็จนี้ได้

ทั้งนี้ บันทึกข้อตกลงฯ ดังกล่าว มีระยะเวลาดำเนินการ 5 ปีเป็นการบูรณาการความร่วมมือและความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ของ 3 องค์การ ในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนแม่แจ่ม เพื่อเป็นต้นแบบการดำเนินงานโรงไฟฟ้าชุมชนในพื้นที่ต่าง ๆ ที่เหมาะสม ของประเทศในอนาคต โดยชุมชนจะได้มีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของพลังงาน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐที่พร้อมผลักดัน และยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในทุกพื้นที่ให้ดีขึ้น