͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: คันทรี่ กรุ๊ป ชี้ผลการประชุม FED สัปดาห์นี้เชื่อว่าจะยังคล้าย Jackson Hole  (อ่าน 151 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ kaidee20

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 16453
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด


จุดดสำคัญสัปดาห์นี้ได้แก่การประชุม FED ทราบผลอย่างเป็นทางการเช้าวันที่ 23 ก.ย. สาเหตุที่ค่อนข้างสำคัญเนื่องจากจะมีการเปิดเผยทั้งตัวเลขเศรษฐกิจ แนวโน้มดอกเบี้ยและถ้อยแถลงเกี่ยวกับวงเงิน QE รวมถึงมีผลต่อ SET INDEX ผ่านอัตราแลกเปลี่ยนสกุลบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับประชุม FED ครั้งนี้ มอง Scenario ดังต่อไปนี้

(1) เป็นบวกกับตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงหุ้นไทยคือถ้อยแถลงจาก FED บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อยังห่างไกลเป้าหมาย , ดอกเบี้ยยังมิสามารถขึ้นได้ , ยังไม่เร่งลดวงเงิน QE ภายในปีนี้ กรณีข้างต้นผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยคือเงินบาทมีโอกาสกลับมาแข็งค่าและอาจมีจังหวะ Fund Flow ต่างชาติไหลเข้าบ้างแต่จะเป็นลบกับกลุ่มส่งออก
(2) เป็นลบกับตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงหุ้นไทยกล่าวคือ FED ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าเดิมพร้อมประกาศลดวงเงิน QE ทันทีในการประชุมงวดนี้ หากเป็นกรณีข้างต้นเชื่อดอลลาร์สหรัฐแข็งค่ากดดันบาทอ่อนค่า Fund Flow มีโอกาสออก แต่จะเป็นบวกกับกลุ่มส่งออก (ASIAN HANA KCE TU) แต่ให้น้ำหนักกระทบหุ้นไทยระยะสั้นเนื่องจากนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง

(3) เป็นกลางต่อหุ้นทั่วโลกและหุ้นไทย FED ยืนยันยังไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ยพร้อมกับจะ Tapering QE อย่างค่อยเป็นค่อยไป กรณีเช่นนี้คาดไม่มีผลอะไรมากต่อตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงตลาดหุ้นไทยและเชื่อว่าผลการประชุมครั้งนี้จะเป็นดังกรณีที่ 3 เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ อาทิ การจ้างงานนอกภาคเกษตรรวมถึงอัตราการว่างงานของสหรัฐยังไม่กลับไปเท่ากับก่อน COVID-19 ด้านเงินเฟ้อล่าสุดก็ใกล้เคียงตลาดประเมินไว้ ส่วนการคาดการณ์ของตลาดล่าสุดสะท้อนผ่าน Dollar Index , อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ยังคงอยู่ในทิศทางที่มองว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ถึงกับร้อนแรงมากจนเกินไป ส่วนปัจจัยอื่นๆจะเป็นการเสนอ ศบค. ต่อการเปิดประเทศในวันที่ 23 ก.ย. ขณะเดียวกันในวันดังกล่าวจะมีการรายงานมูลค่าส่งออกและนำเข้า Bloomberg คาดเติบโต 17%YoY และ 40%YoY ตามลำดับ หากออกมาดีกว่าคาดอาจช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุนบ้าง ดังนั้นสัปดาห์นี้ปัจจัยสำคัญจะอยู่ปลายสัปดาห์ทำให้ช่วงต้นสัปดาห์ SET INDEX จะเป็นลักษณะแกว่งออกข้างมองกรอบทั้งสัปดาห์ที่ 1610 - 1640

กลยุทธ์การลงทุน สำหรับการลงทุนระยะสั้นแนะนำกลุ่มส่งออก (ASIAN HANA KCE TU) ผลบวกจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ส่วนนักลงทุนระยะกลาง - ยาว ยังแนะสะสม Domestic Play ที่ราคายังไม่กลับไปเท่าก่อน COVID-19 ค้าปลีก (BJC CRC CPALL) ศูนย์การค้า (CPN) รถไฟฟ้า (BTS BEM) ร้านอาหาร (M) ท่องเที่ยว (AOT)

ASIAN (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 22 บาท) คาดกำไร 3Q21 ยังเติบโตได้ต่อเนื่องจาก อุปสงค์อาหารสัตว์เลี้ยงและอาหารแช่แข็งที่ดีต่อเนื่อง แบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงเริ่มเติบโต และคาดมีกำลังการผลิตเพิ่มอีกในช่วง 2H21-1Q22

KCE (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 103 บาท) แนวโน้มอัตรากำไรขยายตัวใน 3Q21 ตามการรับรู้ผลประโยชน์จากการปรับขึ้นราคาเต็มไตรมาส แนวโน้มค่าเงินบาทที่อ่อนค่า และการประหยัดค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร