"ฟีนิกซ์ฯ"ที่ปรึกษาการลงทุนอสังหาฯ ประเมิน “ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป” บิ๊กอสังหาฯอันดับ 2 ในจีน ประสบปัญหาสภาพคล่อง ผิดนัดชำระหนี้ ไม่ลุกลามขยายวงกระทบอสังหาฯไทย เหตุ
ผู้ประกอบการอสังหาฯไทยไม่ได้ก่อหนี้เกินตัว ด้านที่ปรึกษาโบรกเกอร์จีน ระบุเร็วเกินไปจะชี้ชัดมีผลต่อตลาดอสังหาฯในไทย แต่ห่วง แบงก์ คุมเข้มสินเชื่อหนัก ด้านศูนย์ข้อมูลฯประเมินอีก 2-3 ปี ตลาดเริ่มฟื้นชัดเจน
ข่าวใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ที่สั่นสะเทือนไปทั่วภูมิภาคเอเชีย คงหนีไม่พ้นเรื่อง บริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่อันดับ 2 ของประเทศจีน “ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป” (China Evergrande Group) ที่เผชิญกับปัญหาสภาพคล่อง เสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ และจากข้อมูลฐานะการเงินของบริษัท ภาระหนี้สินที่เพิ่มสูงขึ้น ก็เป็นผลมาจากการกู้เงินอย่างต่อเนื่องติดต่อมาหลายปี เพื่อนำมาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยจำนวนมาก ส่งผลให้บริษัท ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ขึ้นทำเนียบระดับบิ๊กอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีน
จากข้อมูลที่มีการยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ระบุว่า เอเวอร์แกรนด์ มีตราสารหนี้เชิงพาณิชย์มูลค่ารวม 2.057 แสนล้านหยวน (32,000 ล้านดอลลาร์) หรือประมาณ 1 ล้านล้านบาท (เพียงแค่บริษัทเดียว มีศักยภาพสูงเทียบกับรัฐบาลไทยที่กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท) ณ สิ้นปี 2563 และปัจจุบัน เอเวอร์แกรนด์ มีหนี้สินมากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 10 ล้านล้านบาท เทียบเท่ากับ 2% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีน หลังจากที่บริษัทได้ทำการกู้เงินมาเป็นเวลาหลายปี เพื่อรองรับการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน
คำถามคือ หาก เอเวอร์แกรนด์ ล้มขึ้นมา “โดมิโน” นี้ จะเป็นกลาย คลื่นซัด กระทบตลาดอสังหาริมทรัพย์หรือไม่!! แต่ประเด็นที่ต้องไม่ลืมว่า รัฐบาลจีน ต้องแสดงท่าที ในการปกป้อง “เศรษฐกิจ” และ “เครดิต” ของประเทศตนเอง ในฐานะชาติมหาอำนาจของโลก!!