͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: ชุมพร พบสุกรเป็นโรค PRRS ป่วยตายจำนวนมากใน 2 อำเภอ  (อ่าน 132 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Prichas

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12494
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด


นายกฤษฏ์ แก้วรักษ์ นายก อบต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร พร้อมเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอท่าแซะ เจ้าหน้าที่กองสารวัตรและกักกัน ได้ออกกำจัดซากสุกรตายและสุกรเป็น ในพื้นที่ตำบลท่าข้าม หลังพบสุกรป่วยตายจำนวนมากมานานกว่า 2 สัปดาห์ จึงต้องเร่งกำจัดสุกรที่ชาวบ้านเลี้ยงตามครัวเรือนและตามฟาร์มต่างๆ ในรัศมีการแพร่ระบาด 3-5 กิโลเมตร

โดยเจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือจากชาวบ้านที่พบมีสุกรป่วยตายให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อทำลายซากและสุกรที่ยังไม่ตายทั้งหมดเพื่อจำกัดวงการแพร่ระบาดที่เป็นไปอย่างรวดเร็วขณะนี้ โดยการใช้รถแมกโครขุดหลุมขนาดใหญ่ตามจุดต่างๆ ที่มีการแพร่ระบาดจำนวน 8 จุด ในพื้นที่หมู่ 5, 7, 10, 13 ของพื้นที่ตำบลท่าข้าม อ.ท่าแซะ เพื่อผังกลบซากสุกรตายและสุกรเป็นที่ถูกกำจัด พร้อมทั้งฉีดยาพ่นฆ่าเชื้อในพื้นที่แพร่ระบาดดังกล่าว โดยในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมีสุกรตายและถูกกำจัดไปแล้วหลายร้อยตัว

สำหรับสุกรป่วยตายดังกล่าวมีการแพร่ระบาดอยู่ในตำบลท่าข้าม อ.ท่าแซะ และตำบลบางหมาก อ.เมืองชุมพร ซึ่งมีสุกรที่ป่วยตายและที่สุกรเป็นที่ต้องถูกกำจัดในรัศมี 3-5 กิโลเมตรของมีการแพร่ระบาด รวมแล้วเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกษตรกรที่เลี้ยงสุกรได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก


นายกฤษฏ์ กล่าวว่า สุกรป่วยตายในพื้นที่ตำบลรับร่อ ประมาณ 2 สัปดาห์แล้ว มีพื้นที่ระบาด 4 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 7, 5, 10, 13 ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการกำจัดแหล่งแพร่เชื้อในรัศมี 5 กิโลเมตร ซึ่งได้ขอความร่วมมือกับชาวบ้านทุกรายในการกำจัด และขอความร่วมมือชาวบ้านและเจ้าของฟาร์มสุกรอย่าได้ปกปิดข้อมมูลเพื่อจะได้ป้องกันยับยั้งการแพร่ระบาด ซึ่งทุกรายที่ให้ความร่วมมือจะได้รับเงินชดเชยเยียวยาตามหลักเกณฑ์ของทางราชการ


นายกฤษฏ์ กล่าวต่อว่า สำหรับโรคระบาดในสุกรหมู่ดังกล่าวซึ่งตนได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ว่าเข้ามาในพื้นที่อย่างไร ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนโรคเพราะการแพร่ระบาดทราบว่าเข้ามาได้หลายทางทั้งการขนส่ง การซื้อขาย การผสมพันธุ์ แหล่งอาหาร ซึ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างมากอยู่แล้ว แต่ยังมีโรคมาแพร่ระบาดในสุกรอีกถือเป็นการซ้ำเติมชาวบ้านให้เดือดร้อนมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามขอให้ผู้ที่เลี้ยงสุกรและเจ้าของฟาร์มทุกแห่งขอให้เปิดเผยความจริงอย่าปกปิด เพราะกลัวว่ารัฐจะกำจัดทำลายแล้วรีบชิงขายสุกรออกไปซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาลกลามมากขึ้น จึงขอความร่วมมือจากทุกคนด้วย

“ขอฝากไปถึงชาวบ้านและผู้บริโภคเนื้อสุกรด้วย อย่าได้ตื่นตระหนกตกใจ ยังคงซื้อเนื้อสุกรบริโภคได้เหมือนเดิม เพราะไม่มีการเคลื่อนย้ายสุกรออกจากพื้นที่แพร่ระบาดอย่างเด็ดขาด ขอให้มีควรมมั่นใจได้” นายก อบต.ท่าข้าม กล่าว

ด้าน นายอนนท์ บุญล้ำ อายุ 62 ปี ชาวบ้านหมู่ 7 ตำบลท่าข้าม อ.ท่าแซะ กล่าวว่า ลูกสาวตนเพิ่งจะเรียนจบปริญญาตรี แต่ยังไม่มีงานทำจึงกลับมาอยู่บ้านในช่วงระบาดของไวรัสโควิด-19 และได้กู้เงินมาจาก ธ.ก.ส. และสหกรณ์ออมทรัพย์ ลงทุนเลี้ยงหมูจำนวน 24 ตัว ตอนนี้หมูมีน้ำหนักรวมราว 2 ตัน และอีกประมาณ 2 เดือนก็จะขายได้และช่วงนี้หมูมีคาคาดีกิโลกรัมละ 70-80 บาท ทำให้สูญเงินไปเกือบ 2 แสนบาท เงินเยียวยาที่จะได้รับจากทางราชการคงไม่คุ้มทุน จึงอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือเกี่ยวกับหนี้สิ้นที่กูมาจากสถาบันการเงินให้ช่วยลดหย่อนดอกเบี้ยและพักชำระหนี้ไปก่อนสักระยะก่อน หากสถานกาณ์ดีขึ้นก็ว่ากันใหม่

ขณะที่ น.สพ.พิชัย โพธิ์กระสังข์ สัตวแพทย์ชำนาญการ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดชุมพร (ติดต่อโทรศัพท์) กล่าวว่าโรคระบาดในสุกรดังกล่าวคือโรค P R R S หรือ Porcine Reproductive and Respiratory Syndrome เป็นโรคที่ทำให้เกิดกลุ่มอาการทางระบบสืบพันธุ์แทรกซ้อนในสุกร และทางเดินหายใจ มีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ขณะนี้มีการพร่ระบาดในตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ และตำบลบางหมาก อำเภอเมืองชุมพร ซึ่งที่ผ่านมาเป็นโรคระบาดที่เกิดขึ้นอยู่ก่อนแล้วในหลายจังหวัดของประเทศไทย

น.สพ.พิชัย กล่าวต่อว่า ขอความร่วมมือเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรหากพื้นที่ใดพบสุกรป่วยไม่สบายหรือตายขอให้รีบแจ้งทางเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอทันที เพื่อจะได้เข้าไปกำจัดและป้องการการแพร่ระบาด ซึ่งจะมีการชดเชยเยียวยาให้กับทุกคนอย่าได้ปกปิดข้อมูลเพราะจะส่งผลกระทบในวงกว้างกับผู้เลี้ยงสุกรเอง