͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: เพิ่มเทคนิค ‘แต่งกล่องพัสดุ’ ให้ลูกค้า ‘ซื้อซ้ำ’ รองรับเทรนด์ UNBOX  (อ่าน 184 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ fairya

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12401
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด


ในวงการ “ขายของออนไลน์” การจะได้ความประทับใจของลูกค้ามานั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย หนึ่งในวิธีที่จะซื้อใจลูกค้าให้ติดหนึบ จนกลายเป็นลูกค้าประจำที่กลับมา “ซื้อซ้ำ” เสมอ นอกจากกลยุทธ์ด้านการขายต่างๆ แล้ว การใส่ใจต่อ “กล่องพัสดุ” ก็สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน


ทำไม? ต้องตกแต่ง “กล่องพัสดุ”
คำถามนี้อาจจะผุดขึ้นในหัวของพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ ที่คิดว่ากล่องพัสดุของเรามันดีแล้ว มีการจ่าหน้าซองที่ถูกต้องครบถ้วน และชัดเจน จะต้องตกแต่งเพิ่มอีกทำไม? แต่หารู้ไม่! การตกแต่ง “กล่องพัสดุ” มีส่วนทำให้เกิดการ “ซื้อซ้ำ” และเพิ่มความประทับใจต่อสินค้า (Customer Experience) ได้มากถึง 72%

อ้างอิงจากผลสำรวจเรื่อง “ความพึงพอใจของคนอเมริกาต่อกล่องพัสดุและบรรจุภัณฑ์ในการซื้อสินค้า (ปี 2018)” จากบริษัท Paper and Packaging Board ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งชื่อดังของอเมริกาที่ร่วมมือกับ IPSOS บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยการตลาด

นอกจากนี้ “การแต่งกล่องพัสดุ” ยังส่งเสริมการตลาดแบบไวรัล (บอกต่อปากต่อปาก) บนโลกออนไลน์ ด้วยเทรนด์การทำคอนเทนต์เกี่ยวกับ แกะกล่องพัสดุ ที่เรียกว่า Unbox เพิ่มมากขึ้น ทั้งใน Youtube, Tiktok และ Instargram (แม้แต่มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ยังเคยทำคลิปวิดีโอ Unbox เช่นกัน)

หากเลื่อนลงไปดูในช่องแสดงความคิดเห็น มักจะเห็นผู้คนเข้ามาพิมพ์ข้อความในเชิงบวก เป็นต้นว่า ซื้อที่ร้านไหน, อยากซื้อบ้าง ฯลฯ ซึ่งสามารถขยายฐานลูกค้าได้อีกมาก ชนิดที่แม่ค้าพ่อค้าอาจไม่ต้องลงแรงด้านมาร์เก็ตติ้งอะไรเลย นี่คือเวทมนตร์วิเศษที่เรียกว่า “การแต่งกล่องพัสดุ” ที่แม่ค้าออนไลน์ทั้งหลายจะมองข้ามไม่ได้

ไอเดียตกแต่ง “กล่องพัสดุ” ให้ ว้าว! แบบลืมไม่ลง
หลังจากที่ตระหนักถึงความสำคัญของกล่องพัสดุแล้ว ขั้นตอนต่อมาก็คือ การมองหาไอเดียการตกแต่งกล่องพัสดุ ที่สามารถนำมาปรับใช้ให้ตรงกับความเหมาะสมของสินค้าของคุณ ซึ่งเรามีไอเดียง่ายๆ มาแนะนำกัน ดังนี้

1. ปั๊มตราสัญลักษณ์ของร้านลงบนกล่อง

การพิมพ์หรือปั๊มตราสัญลักษณ์ของร้านลงบนกล่อง ถือเป็นวิธีที่ง่ายๆ ที่สามารถสร้างความจดจำให้แก่ร้านค้าตั้งแต่ครั้งแรกที่สินค้าถึงมือลูกค้า โดยอาจจะเลือกพิมพ์หรือปั๊มชื่อร้าน, โลโก้, สัญลักษณ์ของร้าน ลงไปบนกล่องพัสดุที่เตรียมจะส่งได้เลย ยืนยันได้จากร้านค้าออนไลน์หลายๆ ร้านก็นำไอเดียนี้มาใช้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Diamond Grains, Premium fruit Delivery, Konvy เป็นต้น

2. ใช้สีกล่องตรงกับสีแบรนด์ เพื่อตอกย้ำเอกลักษณ์ของร้าน

นอกจากการพิมพ์หรือปั๊มสัญลักษณ์ร้านแล้ว สิ่งที่สามารถตอกย้ำเอกลักษณ์ของร้านอีกอย่างคือการเลือกใช้สีกล่อง ที่บ่งบอกถึงตัวตนของร้าน หรือสินค้านั้นๆ สำหรับตัวอย่าง “กล่องพัสดุ” ที่มีการเพิ่มลูกเล่นด้วยสีกล่อง ได้แก่ แบรนด์ Ducati, แบรนด์ Chand เป็นต้น


3. ติดเทปหรือสติ๊กเกอร์ สร้างเอกลักษณ์ให้กล่อง

แม้ว่าพื้นที่ที่การเป็นมองเห็นส่วนใหญ่จะอยู่ที่ข้างกล่องไปรษณีย์ แต่ถ้าใครมีงบน้อยที่ไม่เน้นการพิมพ์กล่อง หรือใช้สีกล่องที่แตกต่าง ก็อาจจะเพิ่มลูกเล่นความน่ารักให้กับกล่องพัสดุด้วยการปรับเทปแบบเดิมๆ ให้มีลวดลายเพิ่มมากขึ้น เช่น เทปที่มีลายการ์ตูน เทปที่มีข้อความ Thank You เป็นต้น


อัพเดทล่าสุด! 'มิสทินสู้โควิด' แจก 2,000 บาท ประกาศรายชื่อแล้ว เช็คได้ที่นี่
โอนเงิน ม.33-39-40 ใน 29 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม วันไหนบ้าง เช็กเลย!
ประกันสังคมมาตรา 40 มาตรา 39 เงินเยียวยา เช็ควันโอน-แนะผูกพร้อมเพย์ง่ายๆรอเงินเข้า
ห่อหุ้มสินค้า เรื่องจำเป็นที่ต้องไม่ลืม
หากให้ความสนใจเรื่องกล่องพัสดุแล้ว เรื่องการหุ้มห่อสินค้าก็ต้องใส่ใจควบคู่กันไป ไม่ว่าจะเป็นการหุ้มห่อสินค้าพิเศษ หรือสินค้าที่เสี่ยงต่อการเสียหาย แตกหักง่าย โดยมีเคล็ดลับการห่อของประเภทต่างๆ ที่ ไปรษณีย์ไทย มีข้อแนะนำไว้ ได้แก่

สิ่งของที่มีความยาว : ห่อหุ้มด้วยวัสดุกันกระแทก และบรรจุลงในกล่องให้มิดชิด
ของเหลว : ใช้เทปกาวปิดรอยต่อบริเวณคอ หรือฝาของบรรจุภัณฑ์ให้แน่น พร้อมกับห่อหุ้มด้วยวัสดุกันกระแทกก่อนบรรจุลงถุงอีกชั้นหนึ่ง
ของแตกหักง่าย : หากต้องการส่งหลายชิ้นในกล่องใบเดียวควรห่อหุ้มด้วยวัสดุกันกระแทกแบบแยกชิ้น หลีกเลี่ยงการวางซ้อนกัน เพราะทำให้วัตถุเสียหายได้
เอกสารหรือรูปภาพ : ใช้ฟิวเจอร์บอร์ดหรือกระดาษแข็งประกบเอกสารหน้า-หลัง ติดเทปกาวให้แน่นหนา รวมถึงการใช้ซองพลาสติกห่อหุ้มอีกชั้นเพื่อป้องกันน้ำ และนำใส่ซองแล้วปิดผนึกให้เรียบร้อย
ทั้งหมดนี้ คือ เทคนิคเพื่อใช้กับกล่องพัสดุ เพียงแค่เลือกข้อที่เหมาะสม อยู่ในงบประมาณ และนำมาปรับใช้กับสินค้าของตนเอง เท่านี้พ่อค้าแม่ค้าก็จะทำให้กล่องพัสดุทุกกล่องที่ส่งไปถึงมือลูกค้าเหมือนของขวัญแสนพิเศษที่พวกเขาเฝ้ารอ และประทับใจจนต้องกลับมาซื้อซ้ำ