͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: กบส.จี้ตั้งทีมรับเปิดรถไฟจีน-ลาวสิ้นปีนี้  (อ่าน 115 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ PostDD

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 14907
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด


นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศ (กบส.) ซึ่งมี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นกรรมการ ได้มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำแผนปฏิบัติการ (Action Plan) และแนวทางการพัฒนาระยะเร่งด่วนรองรับการเปิดให้บริการเส้นทางรถไฟสายจีน-ลาว ภายในเดือนธ.ค. 2564

รวมทั้งระยะปานกลาง และระยะยาวในช่วงที่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระยะยาวยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จการเปิดเส้นทางรถไฟสายลาว-จีน เป็นโอกาสที่ดีสำหรับการค้าสินค้าเกษตรไทยไปยังจีน เนื่องจากที่ผ่านมา จีนเป็นตลาดส่งออกสินค้าเกษตรที่สำคัญอันดับที่ 1 ของไทย โดยปี 2563 ไทยมีมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรไปจีน 314,956 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.8% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีมูลค่าส่งออก 281,577 ล้านบาท

สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทยไปจีน ได้แก่ ยางธรรมชาติผลไม้และผลิตภัณฑ์ มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ/สัตว์ ข้าวและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น และมีมูลค่าการนำเข้าสินค้าเกษตรจากจีนมายังไทย 53,422 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.9% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีมูลค่าส่งออก 52,944ล้านบาท

ส่วนสินค้านำเข้าที่สำคัญจากจีนมายังไทย ได้แก่ ผลไม้และผลิตภัณฑ์ ผักและผลิตภัณฑ์ พืชอาหาร และน้ำตาลและผลิตภัณฑ์เป็นต้น ซึ่งเมื่อเปิดให้บริการเส้นทางรถไฟสายลาว-จีนอย่างเต็มรูปแบบในระยะยาว จะเป็นโอกาสที่ดีของไทย ทำให้มีทางเลือกในการขนส่งสินค้าไปยังจีนได้มากขึ้น และคาดว่า จะทำให้การส่งออก-นำเข้าของทั้งลาวและจีน ขยายตัวเพิ่มขึ้นได้


เมื่อเดือนมิ.ย.2564 นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบโลจิสติกส์การเกษตร ในที่ประชุมได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการใน 3 เรื่อง ได้แก่ 1. เร่งพัฒนาระบบ National Single Window (NSW) และปรับลดขั้นตอนในการนำเข้าส่งออกสินค้าเกษตรให้แล้วเสร็จในสิ้นปี2564

จัดตั้งคณะทำงานจัดทำแผนการเตรียมความพร้อมรองรับการให้บริการเส้นทางรถไฟไทย-ลาว-จีน ระยะเร่งด่วน ปานกลางและ ยาว เพื่อรองรับการเปิดให้บริการในสิ้นปี 2564 และเตรียมความพร้อมไว้ระหว่างรอการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้แล้วเสร็จในระยะยาว และ 3. เร่งเจรจาเพื่อลงนามในพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดในการกักกันโรคและตรวจสอบสำหรับการส่งออกและนำเข้าผลไม้ไทยผ่านประเทศที่สาม เพื่อสามารถให้บริการได้ภายในสิ้นปี 2564
ทั้งนี้ สินค้าเกษตรมีความยากและซับซ้อนมากกว่าสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ เนื่องจากสินค้าเกษตรมีความหลากหลายแตกต่างกันในแต่ละชนิดสินค้า ซึ่งมีเงื่อนไขหรือข้อจำกัด แบ่งออกเป็น 2 มิติ คือมิติต้นทุน กรณีส่งออกผลไม้สดจะมีเรื่องของการสูญเสียระหว่างขนส่งมากกว่าสินค้าแปรรูป ซึ่งความสดใหม่และการเน่าเสียจะง่ายกว่า จำเป็นต้องใช้เทคนิคในการบรรจุภัณฑ์เพื่อป้องกันการกระแทก และรักษาคุณภาพของผลผลิตมากกว่าสินค้าแปรรูป

มิติเวลา กรณีส่งออกสินค้าเกษตรแปรรูปแช่แข็ง จำเป็นต้องใช้การขนส่งที่เหมาะสมด้วยระบบcold chain เข้ามาช่วยรักษาคุณภาพของสินค้า ให้ไม่เกิดการเน่าเสียประเด็นปัญหาสำคัญของการส่งออกสินค้าเกษตรผ่านเส้นทางรถไฟลาว-จีน ยังมีข้อจำกัด เนื่องจากสินค้าที่ส่งออกทางรางจากด่านหนองคายจะไปสุดปลายทางที่ท่านาแล้ง สปป.ลาว ซึ่งยังไม่เชื่อมต่อจุดที่ขนส่งทางรางไปยังจีน

ดังนั้น สินค้าจะต้องถูกเปลี่ยนถ่ายจากรถไฟไปสู่รถบรรทุกขนส่ง ณ ท่านาแล้ง สู่สถานีคำสว่างของลาวระยะทาง 15-20 กม. ถึงจะเปลี่ยนถ่ายจากรถบรรทุกขนส่งไปยังรถไฟก่อนส่งต่อไปยังจีนได้ ซึ่งการเปลี่ยนถ่ายสินค้าจากรถไฟ-รถบรรทุก-รถไฟ จะต้องใช้ระยะเวลาในการขนถ่าย ซึ่งหากบริหารจัดการไม่ดี จะเป็นปัญหาของการขนส่งสินค้าเกษตรที่เน่าเสียง่าย เรื่องนี้ เป็นประเด็นสำคัญที่รัฐบาลไทย-ลาว-จีน ต้องหารือเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกันต่อไป


อย่างไรก็ตามเกษตรกรผู้ผลิตและผู้ประกอบการส่งออกสินค้าเกษตร ต้องเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดเส้นทางรถไฟสายลาว-จีน ในส่วนของเกษตรกรผู้ผลิต ควรเน้นในเรื่องการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพได้มาตรฐานการส่งออก ซึ่ง กระทรวงเกษตรให้ความสำคัญและส่งเสริมเรื่องนี้มาโดยตลอด ส่วนการเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการส่งออกสินค้าเกษตร ในระยะแรกที่เปิดให้บริการเส้นทางรถไฟ ผู้ประกอบการจำเป็นต้องศึกษาความคุ้มค่าในการส่งออกสินค้าเกษตรผ่านเส้นทางดังกล่าวให้รอบคอบ เนื่องจากมีจุดที่ขาดการเชื่อมโยง Missing linkระยะทาง 15-20 กม. ซึ่งจะต้องมีการเปลี่ยนถ่ายสินค้า ดังกล่าว