͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: ผุดแคมเปญ! คัดค้าน พ​.​ร​.​ก. นิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งคนจัดหาวัคซีน  (อ่าน 150 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Ailie662

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 14271
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด


จากกรณี ประเด็นร้อนในโซเชียลออนไลน์ เรื่องร่างออกกฎหมายนิรโทษกรรมแบบกึ่งเหมาเข่ง ให้กับคณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการจัดหา และบริหารวัคซีนโควิด


ล่าสุด มีการผุดแคมเปญ! คัดค้าน พ​.​ร​.​ก. นิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งคนจัดหาวัคซีน  โดยระบุว่า ไม่ต้องอ้างว่าทำเพื่อบุคลากรด่านหน้า ไม่ต้องอ้างคนทำงานเพื่อสอดไส้นิรโทษกรรมให้ตัวเอง 

ขอคัดค้าน พ.ร.ก. นิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งให้กับรัฐบาลและคณะผู้จัดหาวัคซีน 



มีการเปิดเผยเอกสารนำเสนอแนวทางปรับปรุงกฎหมายเพื่อเพิ่มความคุ้มครองบุคลากรการแพทย์ในสถานการณ์โควิด ที่ชื่อว่า ‘พระราชกำหนดจำกัดความรับผิดสำหรับบุคลากรสาธารณสุขในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พ.ศ….’ ซึ่ง ล่าสุด อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกมายืนยันว่าเป็นเอกสารจริง มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ และลดช่องโหว่คนหัวใสฟ้องร้องเอาผิด โดยบอกว่า

“ร่างกฎหมายนี้เป็นการให้ความมั่นใจกับผู้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับโรคโควิด-19 ให้คลายความกังวล เช่น การวินิจฉัยโรคและรักษาพยาบาล ก็ต้องทำความมั่นใจว่าเขาจะได้รับความเป็นธรรม โดยเฉพาะเรื่องของการฟ้องร้อง หากทำโดยเจตนาสุจริต ศาลก็ไม่เคยลงโทษ เราไม่ต้องการให้บรรดาแพทย์ พยาบาล มีความวิตกกังวลหากถูกฟ้องร้อง แม้จะมั่นใจว่าชนะก็ยังมีความวิตกกังวลระดับหนึ่ง เราต้องการให้แพทย์ พยาบาล มีขวัญกำลังใจเต็มที่ จะได้ทุ่มเทในการรักษาพยาบาล วัคซีนก็ต้องจัดหาเข็มสามเพื่อความปลอดภัยในการไปรักษาคนไข้ มีความกังวลให้น้อยที่สุด สุดท้ายประชาชน คนไข้ก็ได้ประโยชน์” อ่านต่อ
ขอยืนยันว่า ไม่มีใครไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมให้แพทย์พยาบาล บุคลากรสาธารณสุขในฐานะผู้ปฏิบัติงาน แต่จุดที่เป็นปัญหาที่สุดคือ รายละเอียดที่สอดไส้มาในข้อ 7 ที่เหมารวมถึง “บุคคล / คณะบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งหรือมอบหมายจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดหาหรือบริหารวัคซีน” (ไม่ว่าจะเป็นศบค. ที่ปรึกษา หรือคณะบุคคลที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ) 

เราเห็นว่า ‘ด่านหน้าไม่มีความผิด’ แต่ ‘หน้าด้าน’ ที่บริหารประเทศจนทำให้ระบบสาธารณสุขล้มเหลว จนเกิดความสูญเสียจนประชาชนล้มตายกว่า 6 พันคน อันนี้ ต้องรับผิดชอบ หรืออย่างน้อยที่สุดหากเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ส่วนจะถูก หรือผิด ศาลจะเป็นผู้วินิจฉัยเอง ดังนั้น พ.ร.ก ฉบับนี้ไม่ควรได้ไปต่อจนว่าจะถูกปรับแก้ 

ในเวลานี้เราต่างรู้ดีว่า ‘เงียบแล้วอดทน เปลี่ยนประเทศนี้ไม่ได้’ จึงขอเชิญผู้ที่เห็นตรงกันร่วมลงชื่อคัดค้าน และช่วยกันแสดงพลังด้วยการส่งเสียง เพื่อขับเคลื่อนให้ประเทศได้ไปต่อ เมื่อรัฐบาลบริหารงานแบบดิ่งลงเหว เรายิ่งต้องบ่นให้เสียงดังขึ้นไปอีก เสียงของทุกคนมีค่าเสมอ 

"หยุดอ้างว่านี่คือการปกป้องคนทำงาน หยุดอ้างว่านี่คือการให้กำลังใจบุคลากรด่านหน้า เพราะบุคลากรด่านหน้า และอาสาสมัครต่างๆ ทำงานเต็มที่โดยอยู่บนมาตรฐานวิชาชีพอย่างสูงสุดเท่าที่สถานการณ์จะเอื้อให้ทำได้...และพวกท่านทั้งหลายจงหยุดอ้างว่าทั้งหมดเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน แต่พวกท่านจงระลึกว่า เพราะการทำงานของพวกท่านนั่นเองที่นำพาประเทศและการสาธารณสุขให้ดิ่งลงเหวมาจนถึงจุดนี้ และพวกท่านนั่นแหละต้องรับผิดชอบกับการกระทำของตนเอง!" เครือข่าย Nurses Connect