͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: “ตะวันฉาย” เก็บบทเรียนจากแพ้ “สิทธิชัย” ตั้งเป้าล่าแชมป์สองรุ่น  (อ่าน 190 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Cindy700

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15687
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด


“ซ้ายดารา” ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ยอมรับว่าเสียดายที่เป็นฝ่ายพ่ายคะแนนแบบไม่เอกฉันท์ต่อนักชกรุ่นพี่ “สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง” ในศึก ONE: BATTLEGROUND III เมื่อ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา เผยความพ่ายแพ้นี้เป็นประสบการณ์ชั้นดีที่ทำให้เขารู้ศักยภาพของตนเองในการพัฒนาฝีมือต่อไปเพื่อล่าฝันในการครองบัลลังก์สองรุ่น

ตะวันฉาย ยอมรับว่าไฟต์นี้เป็นความท้าทายของเขาอย่างมากเพราะมีความไม่พร้อมหลายอย่างที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัวโดยเฉพาะการต้องแบกน้ำหนักขึ้นไปเกือบ 5 กิโลกรัม เพื่อชกในรุ่นเฟเธอร์เวต (65.9-70.3 กก.) ซึ่งเป็นน้ำหนักธรรมชาติของ สิทธิชัย อยู่แล้ว โดย ตะวันฉาย ยอมรับว่าเป็นตัวแปรหลักที่ทำให้เขาพลาดท่าไม่สามารถต้านความแข็งแกร่งของนักมวยรุ่นพี่ได้

อย่างไรก็ตาม ตะวันฉาย มองว่าการได้ปะทะฝีมือกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งอย่าง สิทธิชัย เป็นประสบการณ์ชั้นดีที่จะช่วยให้เขาพัฒนาฝีมือในการเจอกับคู่แข่งคนอื่น ๆ บนเวทีระดับโลกเพื่อล่าฝันในการคว้าแชมป์สองรุ่นของตนเองต่อไปในอนาคต

“ผมยอมรับว่าไม่ค่อยพอใจกับผลงานตัวเองเท่าไหร่ครับ แต่ผมก็สู้เต็มที่ไม่มีกั๊กเหมือนกับทุกไฟต์ที่ผ่านมา เพียงแต่ว่าการทำน้ำหนักขึ้นมาในเวลาจำกัดโดยไม่ได้เตรียมซ้อมมาตั้งแต่แรกมันส่งผลต่อการชกบนเวทีมาก ๆ เลยครับ มันทำให้แรงปะทะและการยืนระยะผมเสียเปรียบพี่เขา (สิทธิชัย) ผมบอกตรง ๆ เลยว่าพี่เขาแข็งแกร่งมาก ผมสู้แรงปะทะไม่ได้และพลาดให้พี่เขาดักทางและเล่นงานได้ในช่วงท้ายเกม”

“ถึงจะแพ้ แต่ผมได้ประสบการณ์ที่ดีกับการได้สู้กับคนที่แข็งแกร่งและมีประสบการณ์ในระดับโลกอย่างพี่เขา ทำให้เรามองเห็นว่าเราพลาดตรงจุดไหนและควรแก้ไขอะไรบ้าง ทั้งในเรื่องเทคนิคการชก การใช้แรงปะทะกับคนที่ชกเวตใหญ่กว่าเรา รวมทั้งการแก้เกมเฉพาะหน้าบนเวทีซึ่งจะช่วยให้ผมพัฒนาฝีมือให้ดีขึ้นต่อไปในครั้งหน้าครับ”

ส่วนเป้าหมายต่อไปบนเวที ONE ตะวันฉาย เผยว่าขอมุ่งมั่นตั้งใจไต่อันดับแรงกิงในรุ่นแบนตัมเวต (61.3 -65.8 กก.) เพื่อคว้าสิทธิ์ท้าชิงกับ “น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว” ให้ได้ความตั้งใจเดิมก่อนแล้วจึงค่อยขยับน้ำหนักตามล่าหาเข็มขัดแชมป์โลก ONE รุ่นเฟเธอร์เวต (65.9-70.3 กก.) เพื่อโค่นเจ้าบัลลังก์อย่าง “เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี” เป็นรายต่อไป