͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: ฝนตก 3 วัน ทำปลากระชังแม่น้ำสงครามตาย 300 ตัน เจ๊ง 20 ล้าน  (อ่าน 561 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Cindy700

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15687
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
เกษตรกรร้อง เจอฝนหลงฤดู 3 วัน ปลากระชังแม่น้ำสงครามใน 3 อำเภอของจ.นครพนม น็อกน้ำตาย 300 ตัน เสียหายร่วม 20 ล้าน อ่วมไม่เข้าเกณฑ์ชดเชยเยียวยา "ครูแก้ว" ส.ส.ศุภชัย โพธิ์สุ เร่งประสานประมง ช่วยเหลือ

วันที่ 9 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ จ.นครพนม ผลกระทบจากฝนหลงฤดูตกต่อเนื่อง ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ทำให้สภาพน้ำในลำน้ำสงคราม เปลี่ยนแปลงกะทันหัน ทั้งสภาพน้ำ อุณหภูมิ รวมถึงปริมาณออกซิเจนลดลง ทำให้ปลานิลในกระชังของเกษตรกรที่เลี้ยงในลำน้ำสงคราม ในพื้นที่ อ.นาหว้า อ.ศรีสงคราม และ อ.ท่าอุเทน น็อกน้ำตาย เพราะปรับสภาพไม่ทัน ซึ่งล่าสุดยังได้รับผลกระทบต่อเนื่อง ปลานิลในกระชังทยอยตายจำนวนมาก

ทั้งนี้ นายสำราญ รื่นนาค ประมงจังหวัดนครพนม ได้ประสานเจ้าหน้าที่ประมงในพื้นที่อำเภอ ที่ได้รับผลกระทบ ลงพื้นที่ตรวจสอบ ให้คำแนะนำชาวบ้าน พร้อมวางมาตรการป้องกันช่วยเหลือ ขณะที่นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคภูมิใจไทย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ได้ประสานเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบหาทางช่วยเหลือป้องกันไม่ให้ตายเพิ่มขึ้น


จากการตรวจสอบของประมงจังหวัดนครพนม พบว่า มีปลานิลในกระชัง ตายไม่ต่ำกว่า 300 ตัน หนักสุดในพื้นที่ บ้านหาดกวน ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน มีปลาในกระชังตายไม่ต่ำกว่า 100 ตัน คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 15 – 20 ล้านบาท เพราะมีราคาซื้อขายที่กิโลกรัมละ 50-60 บาท ซึ่งเป็นปลาที่มีขนาดน้ำหนักประมาณ 1-1.2 กิโลกรัม ที่กำลังเตรียมส่งขายสู่ตลาด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกับเกษตรกร เร่งเก็บปลานิลที่ตายขึ้นจากน้ำ เพื่อนำมาทำปลาร้า และทำปุ๋ยหมัก แต่มีจำนวนมากเกิน จึงต้องหาทางนำไปทำลายทิ้งด้วยการฝังกลบ เพราะเริ่มส่งกลิ่นเน่าเหม็น และเริ่มสร้างมลพิษทางน้ำ

ส่วนการเยียวยาช่วยเหลือ อยู่ระหว่างการหารือหน่วยงานเกี่ยวข้อง แต่ยังไม่สามารถเยียวยาชดเชยได้ เพราะไม่เข้าหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือตามระเบียบราชการ ทำได้เพียงการหามาตรการป้องกันแก้ไข ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านขาดทุนหนัก บางรายต้องเป็นหนี้นับล้าน

นางสาวนารี โพธิ์สา ประมงอำเภอศรีสงคราม จ.นครพนม เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางประมงจังหวัดนครพนม ได้ประสานให้ระดมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุ พบว่ามาจากน้ำเกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพรวดเร็วหลังฝนตกหนักในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา จากปกติระดับน้ำต่ำ มีอุณหภูมิสูง แต่พอหลังฝนตกทำให้อุณหภูมิน้ำลดกะทันหัน มีสภาพขุ่น และมีปริมาณออกซิเจนต่ำ ทำให้ปลานิลในกระชัง ปรับสภาพไม่ทัน น็อกน้ำตาย

“จากการสำรวจเบื้องต้นในพื้นที่ 3 อำเภอ ที่เลี้ยงปลาในลำน้ำสงคราม มี อ.นาหว้า อ.ศรีสงคราม และ อ.ท่าอุเทน พบว่า มีปลานิลในกระชังตายไม่ต่ำกว่า 300 ตัน ซึ่งการช่วยเหลือ ยังอยู่ระหว่างการหารือ จากหลายหน่วยงาน เบื้องต้นทางประมงได้เข้าไปดูแล ให้คำแนะนำเกษตรกร ให้เร่งนำปลาส่งขาย รวมถึงลดปริมาณการเลี้ยง และย้ายปลาในกระชังออกให้มีปริมาณพอเหมาะไม่ให้แออัดเกินไป ป้องกันปัญหาออกซิเจนต่ำ เกิดปลาน็อกน้ำตามมา รวมถึงช่วงนี้เกษตรกรควรลดการให้อาหาร ไม่ควรให้อาหารปลาในปริมาณมาก ควรให้จำนวนน้อยแต่ให้บ่อยขึ้น รวมถึงหมั่นสังเกตอาการปลาตลอด ที่สำคัญหากได้ขนาดพอขาย ให้เร่งขายในช่วงนี้ เพื่อลดความเสียหาย”rubzab รับทรัพย์ เว็บข้อมูลการหารายได้เสริม