เมื่อวันที่ 16 เม.ย. พลเรือตรีสมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. เปิดเผยว่า เพื่อคลายความวิตกกังวล ตัวเลขของผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซียที่มีความเดือดร้อนจาก
โควิด-19 และมีความประสงค์จะเดินทางกลับภูมิลำเนามีประมาณ 7,000 คน ได้ประสานกับภาคประชาสังคม อาสาสมัครไทยและประธานกลุ่มผู้ประกอบการต้มยำกุ้งในประเทศมาเลเซีย สำรวจตรวจสอบทุกพื้นที่
พล.ร.ต.สมเกียรติ เปิดเผยว่า มีการเปิดด่านเพื่อให้คนเริ่มทยอยเดินทางกลับมาในวันที่ 18 เม.ย. จะแบ่งออกเป็น 4 ช่องทาง ด่านวังประจัน จ.สตูล จะเปิดให้คนเดินทางผ่านเข้าวันละประมาณ 50 คน ด่านสะเดา จ.สงขลา วันละไม่เกิน 100 คน ด่านเบตง จ.ยะลา วันละไม่เกิน 50 คนและ ด่านสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส วันละ 100 คน รวมวันละไม่เกิน 300 คน
เลขาธิการ ศอ.บต. ทางสถานทูตไทยในกัวลาลัมเปอร์ออกหนังสือแจ้ง และประชาสัมพันธ์ตลอดวันว่าให้เริ่มลงทะเบียนหลังเที่ยงคืนของวันที่ 14 เม.ย. พร้อมทั้งแนะนำเรื่องของการลงทะเบียนและข้อมูลเรื่องของการใช้เอกสาร
โดยกระทรวงมหาดไทยมีหนังสือสั่งการทางผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ให้เตรียมการสถานที่ กักกันตัวตามมาตรการป้องกันและสกัดกั้นการแพร่ระบาดไวรัส โควิด-19 คาดว่าจะเพียงพอที่จะสามารถรองรับได้ มีการประสานไปยังประธานกลุ่มต่างๆ เพื่อสำรวจกลุ่มคนที่ไม่ได้เดินทางกลับมาและได้มีมาตรการช่วยเหลือในลักษณะของถุงยังชีพอีกด้วย
“การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจระยะยาว ศอ.บต. ได้เกิดโครงการตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ซึ่งจะจัดสรรงบประมาณลงไป ที่สภาสันติสุขของทุกตำบล เพื่อใช้งบประมาณในการเตรียมความพร้อมดูแลเรื่องของการยังชีพ หรือครัวเคลื่อนที่ เพื่อให้มีการผลิตอาหารและเกิดเศรษฐกิจฐานราก ด้วยการหมุนเวียนและดูแลในเรื่องความจำเป็นพื้นฐาน เพื่อพึ่งพาตนเองสู่ความยั่งยืนได้” เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าว