องค์การอนามัยโลกช่วยเมียนมาบริหารจัดการความช่วยเหลือด้านเวชภัณฑ์ ในช่วงที่ต้องเผชิญกับวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อ
ไวรัสโคโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยการันตีการมีชุดตรวจโรคเพียงพอ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ว่านพ.สตีเฟน พอล โจสต์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) ประจำเมียนมา กล่าวถึงสถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ "โควิด-19" ในเมียนมา ที่พบผู้ติดเชื้อแล้ว 2 คน เป็นชายทั้งคู่และมีประวัติการเดินทางมาจากสหรัฐและสหราชอาณาจักร ว่าตอนนี้มีชุดตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่สำรองอย่างน้อย 5,000 ขุด สามารถตรวจคัดกรองประชาชนได้ราว 1,700 คน
ปัจจุบันเมียนมาตรวจคัดกรองโรคจากประชาชนแล้ว 215 คน เฉลี่ยแล้ววันละ 2 คน นับตั้งแต่มีการยืนยันการอุบัติของโรคในจีน เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ทั้งนี้ นพ.โจสต์ยืนยันว่าดับเบิลยูเอชโอสนับสนุนด้านเวชภัณฑ์ที่เพียงพอแก่เมียนมา "จึงไม่มีความจำเป็น" ที่ชาวเมียนมา "ต้องตื่นตระหนก" และในอีกไม่ช้านี้เกาหลีใต้จะส่งมอบความช่วยเหลือด้านเวชภัณฑ์เพิ่มเติมให้กับเมียนมาด้วย นอกเหนือจากความช่วยเหลือจากไทย สหรัฐ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และจีน โดยไทยให้ความช่วยเหลือในการตรวจสอบเชื้อโรคให้กับเมียนมาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม เมียนมามีประชากรประมาณ 54 ล้านคน การที่มีผู้เข้ารับการตรวจหาเชื้ออย่างน้อย 215 คน ถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยมาก โดยมีรายงานว่ารัฐบาลเมียนมากำหนดเกณฑ์ของบุคคลซึ่งสามารถเข้ารับการตรวจเอาไว้สูงมาก นอกจากนี้ ระบบสาธารณสุขของเมียนมาในการบริหารจัดการโรคติดเชื้อ ไม่ได้มีการวางโครงสร้างไว้ในยามเกิดภาวะวิกฤติด้านสาธารณสุขที่อาจมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และเมียนมาไม่เคยมีแผนเก็บภาษีด้านสาธารณสุขในอัตราสูงมาก่อน ด้วยเหตุนี้ เมียนมาจึงต้องป้องกันระบบสาธารณสุขของตัวเองให้รัดกุมที่สุดจากวิกฤติโรคระบาดครั้งนี้.
