นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.เตรียมพิจารณาปรับแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวใหม่ เพื่อรับมือผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว หากผลกระทบยังไม่คลี่คลายในช่วงครึ่งปีแรก และต่อเนื่องไปจนถึงปลายปีนี้ โดยอาจเสนอของบฉุกเฉินจากรัฐบาลเพื่อมาฟื้นฟูด้วย และจะรายงานสถานการณ์ให้กับที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ในเดือน เม.ย.นี้ รับทราบด้วย ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ททท.กำหนดแผนรับมือผลกระทบไว้เป็นลำดับ ซึ่งขณะนี้เข้าสู่แผนลำดับที่ 3 คือผลกระทบยาว 6 เดือน ตั้งแต่เดือน ก.พ.-ก.ค.63 และน่าจะฟื้นตัวในเดือน ส.ค.63 ทำให้คาดว่า ทั้งปี 63 จะมี
นักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้าไทยประมาณ 30 ล้านคน ลดลง 24% จากปีก่อนที่มี 39.8 ล้านคน มีรายได้ 1.48 ล้านล้านบาท ลดลง 23% หรือกว่า 500,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.93 ล้านล้านบาท
“แผนรับมือผลกระทบโควิด-19 ที่วางไว้ ขณะนี้มาสู่แผนลำดับที่ 3 คือ ระบาดในทุกภูมิภาคทั่วโลก จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสูงตั้งแต่เดือน มี.ค.-พ.ค. และเริ่มลดลงในเดือน มิ.ย. ซึ่งใช้จีนเป็นกรณีศึกษา ที่อัตราผู้ติดเชื้อลดลงภายใน 1 เดือน ขณะที่ไทยการระบาดยังอยู่ในระยะ 2 ไม่มีการแพร่เชื้อระหว่างคนไทย กระทรวงสาธารณสุขควบคุมการระบาดภายในประเทศได้ภายในเดือน ก.ค.63”
ส่วนการกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาดนั้น จะส่งผลให้นักท่องเที่ยวจากตลาดเหล่านั้นลดลงกว่า 90% และถ้าไทยยกเลิกประกาศกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากประเทศหรือพื้นที่เสี่ยงในเดือน ก.ค.63 คาดว่าตลาดจะกลับมาเติบโตได้ในเดือน ก.ย.เป็นต้นไป แต่ตลาดยุโรปยังคงหดตัวจนถึงเดือน ต.ค.63 และเริ่มฟื้นกลับในฤดูกาลท่องเที่ยวเดือน พ.ย.63 ซึ่ง ททท.ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง หากคลี่คลายจะเร่งฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทันที.