ดีเอสไอ บุกจับแรงงานต่างด้าว 7 คน นายหน้าพาข้ามจากมาเลย์ ซุกในบ้านเช่าชายแดน ด้านสุไหงโก-ลก รอสถานการณ์
โควิด-19 คลี่คลาย พบเป็นแก๊งค้ามนุษย์ที่ใช้พื้นที่ของไทยส่งแรงงานพม่าไปมาเลเซีย
เวลา 16.00 น. วันที่ 28 เมษายน ภายใต้การอำนวยการของ นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ท.สุภัทร์ ธรรมธนารักษ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ พ.ต.ต.สิริวิชญ์ ชาญเตชะสิทธิ์กุล ผู้อำนวยการกองคดีการค้ามนุษย์ DSI และ นายปภาวิน มรรยาวุฒิ ผอ.ส่วนคดีการค้ามนุษย์ 3 กองคดีการค้ามนุษย์ DSI ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกับ ตม.จว.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่สำนักอำนวยการข่าวกรอง กอ.รมน.ภาค 4 สน. สนธิกำลังเข้าทำการตรวจสอบที่บ้านเช่าเลขที่ 67 ถ.ทรายทอง 1 ซอย 7 ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส หลังสืบทราบว่ามีนายหน้ากลุ่มค้ามนุษย์ข้ามชาติใช้บ้านเช่าหลังดังกล่าวเป็นที่พักพิงของแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา
เมื่อไปถึงเป้าหมายเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น พบแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 7 คน อาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว โดยแยกเป็นผู้ชาย 2 คน ผู้หญิง 5 คน ซึ่ง 4 คนมีอายุต่ำกว่า 18 ปี เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไว้ พร้อมทั้งได้ทำการตรวจค้นห้องพัก ซึ่งคาดว่าเป็นห้องพักของนายหน้าที่ได้วิ่งหลบหนีก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้น
ภายในบ้านพัก เจ้าหน้าที่พบหนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ต จำนวนเกือบ 100 เล่ม พร้อมอุปกรณ์เสพยาไอซ์ เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดไว้ก่อนที่จะควบคุมตัวบุคคลต่างด้าวทั้ง 7 คน สอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า กลุ่มบุคคลต่างด้าวทั้ง 7 คน ได้แอบลักลอบเดินทางข้ามพรมแดนมาจากรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย โดยเข้ามาฝั่งไทยตามช่องทางธรรมชาติ แล้วนายหน้าได้ให้มาพักอาศัยอยู่ที่บ้านเช่าเป็นการชั่วคราว โดยรอให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ประเทศมาเลเซียคลี่คลายเข้าสู่สภาวะปกติ แล้วนายหน้าจะส่งกลับไปทำงานในประเทศมาเลเซียต่อ แต่ถูกเจ้าหน้าที่บุกจับกุมเสียก่อน
ส่วนนายหน้าคาดว่าจะไหวตัวหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ไปได้
ต่อมา พ.ต.ต.สิริวิชญ์ ชาญเตชะสิทธิ์กุล ผู้อำนวยการกองคดีการค้ามนุษย์ DSI ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ.สุไหงโก-ลก เพื่อเดินทางมาทำการตรวจคัดกรองโรคตามกระบวนการ โดยพบว่าบุคคลต่างด้าวทั้ง 7 คน มีอาการปกติ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจึงได้ส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก ดำเนินคดีในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย พร้อมทั้งได้มีการจัดสถานที่เพื่อกักตัวดูอาการ 14 วัน ว่ามีบุคคลใดที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากประเทศมาเลเซียหรือไม่ ก่อนที่จะมีการพลักดันกลับประเทศต่อไป
ส่วนหน้านายที่หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ไปนั้น ขณะนี้ทราบเบาะแสแล้ว เป็นเครือข่ายค้ามนุษย์ที่ใช้พื้นที่ประเทศไทยส่งแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาไปทำงานในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จับกุมนายหน้ากลุ่มนี้ได้แล้วหลายคน.