บรรดาโรงรับจำนำสถานธนานุบาลใน จ.สระบุรี ระบุ โควิด-19 ทำยอดเงินหมุนเวียนจำนำสูงขึ้น 20% หลังชาวบ้านนำของใช้ เครื่องไฟฟ้า อุปกรณ์ช่าง จำฝาก หลัง 2 เดือนที่ผ่านมา คนตกงาน ไม่มีงานทำ
จากกรณีที่การกระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ
โควิด-19 ระบาดไปทั่วประเทศ โดยการแพร่กระจายจากคนสู่คน และบานปลายออกสู่ต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลภาครัฐใช้บังคับ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกจากบ้านตั้งแต่ 22.00-04.00 น. ทำให้ประชาชนต่างอยู่บ้าน ไม่ออกไปทำกิจกรรมข้างนอกเพิ่มความเสี่ยง เพื่อเป็นการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19
ขณะเดียวกันห้างร้านบริษัท ร้านค้าต่างๆ ก็ปิดตัวลงเพื่อเป็นการร่วมในการป้องกันเชื้อโควิด-19 ดังกล่าวที่แพร่กระจายในขณะนี้ โดยส่วนมากเชื้อดังกล่าวจะแพร่รวดเร็ว ในทิศทางทางที่ประชาชนมารวมกลุ่มกันเชื้อจึงแพร่ง่ายขึ้น จึงมีการขอความร่วมมือทุกภาคส่วนเพื่อพักปิดกิจการสถานบันเทิง สถานบริการต่างๆ ร้านค้า ศูนย์การค้า จนกว่าสภาวะจะกลับสู่ปกติหรือมีการควบคุมได้
จากเหตุการณ์ ผลกระทบก็จะกลับเข้ามาสู่ประชาชนที่ตกงานกันเป็นจำนวนมากแทบทุกพื้นที่ บางรายมีรายจ่าย ค่าบ้าน ค่ารถ ค่าน้ำค่าไฟต่างๆ ที่จะต้องมีการใช้ตลอดทุกๆ เดือน ด้วยเหตุนี้ เมื่อประชาชนตกงาน บางคนกลับมาอยู่บ้าน รายรับไม่มีแต่รายจ่ายทุกวัน และก็ไม่รู้ว่างานจะมีให้ทำต่อหรือไม่ ทำให้บางคนมีข้าวของภายในบ้าน ที่สามารถจำนำเอามาเป็นเงินในช่วงนี้ เพื่อเป็นการนำมาใช้จ่ายไปเพื่อเลี้ยงชีพในครอบครัวไปก่อนเท่าที่จะหยิบเม็ดเงินมาได้ จึงได้นำข้าวของเข้าไปจำนำตามโรงรับจำนำ สถานธนานุบาล ในแต่ละพื้นที่ กันอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เม็ดเงินของโรงรับจำนำ สถานธนานุบาล ยอดเงินหมุนเวียนจากเดิม ก็ขยับขึ้นมาร่วม 20% ของเดือนปกติ
ด้าน นายประดิภาส คล่องดี ผู้จัดการสถานธนานุบาล เทศบาลเมืองทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เปิดเผยว่า ช่วงนี้ ประมาณ 2 เดือน หลังจากที่โควิด-19 ระบาด และรัฐมีการประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯขึ้น มีประชาชนตกงานมากขึ้นและไม่มีงานทำ ทำให้ประชาชนต่างนำข้าวของมาฝากจำไว้ เช่น เครื่องมือก่อสร้าง เช่น สว่านไฟฟ้า ตู้เชื่อม เลื่อยยนต์ เป็นต้น ขณะของใช้ครัวเรือนก็มี ตู้เย็น โทรทัศน์ โทรศัพท์ ทองคำ รถจักรยาน ส่วนมากจะเป็นเครื่องมือการก่อสร้างมากกว่า เพราะพื้นที่สระบุรีส่วนมากจะเป็นโรงงานอุสาหกรรม ด้วยเหตุในช่วงนี้ ทำให้ยอดเงินหมุนเวียนจากเดิม เหตุการณ์ปกติยอดเม็ดเงินใช้หมุนเวียนเดือนละ 20 ล้านบาท แต่ตอนนี้ยอดเม็ดเงินใช้ขึ้นมาเป็น 25-27 ล้านบาทต่อเดือน ถือว่าช่วงที่โควิดระบาดนี้ยอดเพิ่มขึ้น.
