จัดเตรียมแถลงแนวทางการผลักดันและส่งเสริมตลาดท่องเที่ยวไทย มุ่งประสิทธิภาพพร้อมกันมูลค่า เดินหน้าสู่วัตถุประสงค์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (STGs)
วันนี้ (11 ก.ค. 2566) ททท. (ททท.) จัดประชุมบูรณาการแผนปฏิบัติงาน ททท. ประจำปี 2567 (Tourism Authority of Thailand Action Plan 2024 : TATAP 2024) โดยมี นายโชติ ตราชู ประธานกรรมการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายยุทธศักดา สุภสร ผู้ว่าการ ททท. พร้อมทั้งทีมงานผู้ตัดสิน ผู้บริหาร ผู้อำนวยการที่ทำการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในทุกภูมิภาคทั่วโลก เข้าร่วม ระหว่างวันที่ 11 - 13 ก.ค. 2566ในโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา จังหวัดชลบุรี
นายโชติ ตราชู ประธานกรรมการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวมอบแนวนโยบายการทำงานของ ททท. ปี 2567 ว่า การมุ่งหน้าสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินงานในทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ซึ่งจะต้องบูรณาการการทำงานระหว่างกัน ทั้งยังหน่วยงานภาครัฐ เอกชน รวมทั้งชุมชนในพื้นที่ โดยให้ความสำคัญต่อการนึกถึงสมรรถนะของแหล่งท่องเที่ยว (Capacity) ในการรองรับนักเดินทาง การยกฐานะห่วงโซ่อุปทาน หรือ Supply side ให้มีความพร้อมและมีมาตรฐานการ
ท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ ควบคู่กับผลักดันการ
ท่องเที่ยวเมืองรอง เพื่อมีการกระจายรายได้สู่ฐานรากอย่างทั่วถึง สู่หมุดหมายของการเดินหน้าขับการท่องเที่ยวไทยในอนาคตให้เติบโตอย่างยั่งยืนและสมดุลอีกทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อันสอดคล้องกับแนวความคิด Bio Circular Green Economy หรือ BCG Model
นายยุทธศักดา สุภสร ผู้ว่าการ ททท. พูดว่า การเดินหน้าของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในปี 2567เป็นMoving Forward to Better โดยปี 2567 จะเป็นปีแรกของการมุ่งสู่ Resilience ต่อจากการบรรลุผลสำหรับเพื่อการเปิดประเทศ (Reopen) รวมทั้งการฟื้นฟูสภาพ (Recovery) โดยจำเป็นต้องเริ่มขับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไปสู่ระบบนิเวศด้านการท่องเที่ยวใหม่ (New Tourism Ecosystem) ให้เป็นระบบนิเวศด้านการท่องเที่ยวที่มีความสมดุลระหว่างราคาและค่า โดย “คุณประโยชน์” คือ ค่าของประสบการณ์ (Value on Experience :VOX) ซึ่ง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จะส่งบนฐานรากของคุณภาพและความปลอดภัย รวมถึง ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชน สังคม พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพอย่างยั่งยืน เพื่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยกลับมาอย่างแข็งแกร่ง และสร้างความมั่นคงยั่งยืนทางการท่องเที่ยว (Tourism Security) ซึ่งประกอบด้วย การเสริมสร้างความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทาน การพัฒนาต้นสายปลายเหตุเกื้อหนุนการท่องเที่ยวแล้วก็โครงสร้างพื้นฐานบริการนักท่องเที่ยวอย่างเท่าเทียม การเร่งรัดการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดแจงความเสี่ยงข้างนอกอย่างมีประสิทธิภาพ และมุ่งเดินหน้าการท่องเที่ยวด้วย ZEST อย่างเช่น Z: Zero in on Sustainability มุ่งผลักดันการท่องเที่ยวไปสู่ความยั่งยืน E: Expressive – Full of Meaningful สร้างโมเมนต์ที่เต็มไปด้วยความหมายแล้วก็ความสุขจากการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ S: Superior – Greater in Quality สร้างประสิทธิภาพรวมทั้งมาตรฐานที่เหนือระดับในมิติของกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ T: Transformation – IT Modernization ใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนผ่านทางด้านเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มคุณค่าของประสบการณ์ (VoX) โดยจะควบคู่ไปกับการกังวลเอาใจใส่ในเรื่องความปลอดภัยของนักเดินทาง หรือ CARE เป็นต้นว่า C : Caution เฝ้าระวัง บริหารการเสี่ยงจากอุบัติเหตุต่างๆA : Aid in emergencies ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลนักเดินทางโดยทันทีเมื่อเกิดเหตุ R: Remedy รักษาเยียวยาความรู้สึกจากเหตุที่ประสบ รวมทั้ง E: Escalate ยกฐานะการคุ้มครองป้องกันเหตุ ถอดบทเรียนเพื่อเรียนขั้นตอนการคุ้มครองปกป้องเหตุในอนาคต โดยเชื่อมั่นว่า การดำเนินงานของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภายใต้บริบทของ ZEST รวมทั้ง CARE จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับด้านการท่องเที่ยวไทยให้เติบโตอย่างถาวร ยืนนาน และสมดุล พร้อมต่อกรกับการเปลี่ยนแปลงและคงความสำคัญของการเป็นกลไกสร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจของประเทศไทยถัดไปเพื่อให้รายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2567 กลับมา 100% ของระดับรายได้ในปี 2562 หรือ 3.1 ล้านล้านบาท การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจะย้ำ Targeted & Keep Driving (Demand) ในเชิงประสิทธิภาพเพิ่มทั้งยังปริมาณนักเดินทางรวมทั้งค่าครองชีพเฉลี่ยของนักเที่ยว โดยล็อกเป้า (Targeted) นักเดินทางกรุ๊ปคุณภาพที่มีกำลังซื้อสูงและก็มีจิตสำนึกที่ดี กระจัดกระจายรายได้ลงสู่เขตแดนรวมทั้งชุมชน แล้วก็ ผลักดันการท่องเที่ยวให้เกิดสมดุลในมิติพื้นที่แล้วก็เวลา เวลาเดียวกันทางด้าน Supply เพื่อก้าวถัดไปด้านหน้าอย่างยั่งยืน (Build for the next chapter, Act responsibly) จะรีบสร้างอุปทานการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เน้นความคงทนในการสร้างการเติบโต เพื่อมุ่งสู่ Net Zero Tourism
นอกจากนี้ การสัมมนาบูรณาการแผนปฏิบัติการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รายปี 2567 ยังได้มีการร่วมกันระดมความคิดเห็นถึงกรรมวิธีสนับสนุนการท่องเที่ยวในหัวข้อที่สำคัญต่างๆอาทิเช่น การส่งเสริมภาพลักษณ์และเสนอขายประสบการณ์ท่องเที่ยวไทยในมิติความคงทนถาวร การกระตุ้นการใช้จ่ายรวมทั้งส่งเสริมการกระจายการเดินทางให้คนประเทศไทยท่องเที่ยวตลอดทั้งปี การจัดเก็บข้อมูลลูกค้า ททท. รวมทั้ง Voice of Customers (VOC) รวมทั้ง Voice of Suppliers (VOS) ที่สำคัญ ผ่าน Touchpoints ใน Customer Journey ตลอดจนสรุปแนวทางดำเนินการเกื้อหนุนตลาดเชิงบูรณาการของ ททท. ปี 2567
ดังนี้ ททท. จะนำเสนอและแถลงแนวทางการผลักดันและส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยว ปี 2567 ในวันที่ 17 เดือนกรกฎาคม 2566ในศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จ.กรุงเทพฯ เพื่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และก็ผู้ที่เกี่ยวข้องในแวดวงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้รับทราบทางสำหรับในการด้วยกันเคลื่อนการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้ไปสู่การเป็นจุดมุ่งหมายที่ High Value และ Sustainable อย่างแท้จริง
