͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: GRAND U วางยอดขายปี 65/66 ที่ 4 พันลบ.รับดีมานด์คอนโดใกล้รถไฟฟ้า,เปิดใหม่ 1 พันลบ.  (อ่าน 65 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Beer625

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13322
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด

นางสาวทัดดาว จิระสวัสดิ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด บริษัทในเครือบมจ.ยูนิเวนเจอร์ (UV) เปิดเผยว่า บร์ษัทตั้งเป้ายอดขายในงวดปี 65/66 (ต.ค. 65 - ก.ย. 66) ที่ 4 พันล้านบาท สูงขึ้นกว่างวดปี 64/65 ที่ทำยอดขายได้ 3 พันล้านบาท โดยบริษัทมองว่าสถานการณ์ของตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มเห็นแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีขึ้น หลังจากโควิด-19 คลี่คลาย โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2/65 ที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทที่เป็นกลุ่มซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงในตลาดกลุ่มแมส เริ่มหันกลับมาซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้น โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่ใกล้กับรถไฟฟ้าในระดับราคาที่จับต้องได้ ที่เริ่มเห็นยอดขายเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการ Denim จตุจักร ยอดขายเพิ่มขึ้นมาเป็น 60% โครงการ Ciela จรัญ 13 ที่ยอดขายเพิ่มมาเป็น 70% และโครงการ Ciela เจริญนคร ที่ยอดขายเพิ่มมาเป็น 50%

โดยบริษัทมองว่าพฤติกรรมของผู้ซื้อในปัจจุบันเริ่มกลับมามองหาที่อยู่อาศัยที่สามารถเดินทางไปทำงานในเมืองได้สะดวกมากขึ้น หลังจากที่กลับมาทำงานในออฟฟิศตามปกติ และจะเน้นการเลือกซื้อโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ ซึ่งสามารถเห็นโครงการและห้องพักจริงได้ และเข้าอยู่ได้ทันที ทำให่โครงการที่สร้างเสร็จพร้อมโอนจะเห็นยอดขายที่เพิ่มขึ้นมา รวมถึงโครงการระดับ Luxury ของบริษัท คือ โครงการ ANIL สาทร 12 ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นมาเป็น 65% ในช่วงที่โครงการสร้างเสร็จเช่นเดียวกัน

สำหรับแผนการพัฒนาโครงการใหม่ของบริษัทในปี 65/66 นั้นเบื้องต้นวางแผนเปิดโครงการใหม่แน่นอนแล้ว 1 โครงการ คือ โครงการ Blue สุขุมวิท มูลค่าไม่เกิน 1 พันล้านบาท และยังมีที่ดินเปล่ารองรับการพัฒนาโครงการใหม่ในทำเลในเมือง พื้นที่ 3 ไร่ ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาพัฒนาโครงการใหม่ พร้อมกับเตรียมงบซื้อที่ดินไว้รองรับการซื้อที่ดินใหม่ สำหรับการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมที่เจาะกลุ่มผู้ซื่อเพื่ออยู่อาศัยจริงในปี 65/66 ไว้ที่ 1 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทจะเน้นไปที่การพัฒนาโครงการใหม่ 3 แบรนด์ ได้แก่ Blue, Ciela และ Denim ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เจาะกลุ่มลูกค้าซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงในระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามแม้ว่าในปี 65 มาตรการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะสิ้นสุดไปแล้วในสิ้นปี 65 แต่มองว่าในปี 66 กลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงจะไม่ได้รับผลกระทบในปัจจัยดังกล่าว เพราะส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ซื้อที่อยู่อาศัยสัญญาแรก แต่ในส่วนของอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น มองว่าอาจจะมีผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้ออยู่บ้าง รวมถึงการกู้สินเชื่อของลูกค้า ซึ่งทางบริษัทได้มีการเตรียมตัวให้กับลูกค้าในการวางแผน เพื่อเตรียมตัวก่อนยื่นกู้ขอสินเชื่อกับธนาคาร

ด้านยอดโอนของบริษัทในปี 65/66 ตั้งเป้าไว้ที่ 3.6 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากการโอนโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ในกับลูกค้า และโครงการ ANIL สาทร 12 ที่จะมีการโอนเข้ามามากในปี 66 จากปัจจุบันที่โอนไปแล้ว 1.5-1.6 พันล้านบาท จากยอดขายที่ทำได้ 2.3 พันล้านบาท ซึ่งมาจากลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ และคาดว่าจะปิดการขายภายในปี 67 และยังมีการโอนโครงการ Blue สุขุมวิท 105 ที่จะเริ่มโอนในต้นปี 66 โดยปัจจุบันมียอดขายแล้ว 30%