ดัชนีดาวโจนส์เปิดตลาดพุ่งขึ้นกว่า 100 จุด ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อและการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐในสัปดาห์นี้
ณ เวลา 21.35 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 32,540.46 จุด บวก 137.24 จุด หรือ 0.42%
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับเวลาซื้อขายหุ้นในตลาด เริ่มต้นจากวันนี้ โดยปรับเวลาช้าลง 1 ชั่วโมง หลังจากสิ้นสุดช่วง Daylight Saving Time
ทั้งนี้ ตลาดเปลี่ยนแปลงเวลาซื้อขาย จากเดิม 20:30-03:05 น. ตามเวลาไทย เป็น 21:30-04:05 น.ตามเวลาไทย
การปรับเวลาซื้อขายหุ้นดังกล่าวนี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2565-13 มีนาคม 2566
ราคาหุ้นบริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ ซึ่งบริษัทแม่ของเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม พุ่งขึ้นกว่า 3% หลังสื่อรายงานว่า บริษัทจะเริ่มทำการปลดพนักงานจำนวนมากในสัปดาห์นี้ หรืออย่างเร็วที่สุดในวันพุธนี้
การประกาศปลดพนักงานดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่เมตาเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า บริษัทมีกำไรต่ำกว่าคาดในไตรมาส 3 ขณะที่ธุรกิจเมตาเวิร์สขาดทุนอย่างหนักนับตั้งแต่ต้นปีนี้
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้ โดยดัชนี CPI เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค และเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใช้ประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน ซึ่งหากดัชนี CPI ออกมาสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ก็อาจผลักดันให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ ตลาดจับตาการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะชี้ชะตาทิศทางการเมืองสหรัฐในช่วง 2 ปีข้างหน้า ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2567
การเลือกตั้งกลางเทอมดังกล่าว ถือเป็นการ.ครั้งใหญ่ระหว่างพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน โดยจะมีการชิงชัยเก้าอี้ทั้งหมดในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจำนวน 435 ที่นั่ง รวมทั้งเก้าอี้ในวุฒิสภาจำนวน 35 ที่นั่ง จากทั้งหมด 100 ที่นั่ง นอกจากนี้ ยังมีการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐใน 39 มลรัฐ รวมทั้งการเลือกตั้งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอีกจำนวนมาก
การนับคะแนนเลือกตั้งจะเริ่มจากหน่วยเลือกตั้งทางฝั่งตะวันออกของสหรัฐ โดยจะมีการเริ่มนับคะแนนหลังปิด.บพรุ่งนี้ในช่วงเวลา 19.00-20.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเช้าวันพุธที่ 9 พ.ย.เวลา 07.00-08.00 น.ตามเวลาไทย
นักวิเคราะห์ระบุว่า หุ้นกลุ่มพลังงานในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะพุ่งขึ้น หากพรรครีพับลิกันคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งกลางเทอมในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากทางพรรคมีนโยบายสนับสนุนการขุดเจาะหาแหล่งพลังงานและวางท่อส่งก๊าซและน้ำมันในสหรัฐ
นอกจากนี้ คาดว่าหุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์และเทคโนโลยีชีวภาพจะดีดตัวขึ้นขานรับชัยชนะของพรรครีพับลิกันเช่นกัน เนื่องจากที่ผ่านมา บริษัทในกลุ่มดังกล่าวถูกกดดันจากการที่พรรคเดโมแครตผลักดันการออกกฎหมายควบคุมราคายาตามใบสั่งแพทย์