͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ขึ้นตามตลาดตปท.-แรงเก็งกำไรกลุ่มแบงก์  (อ่าน 71 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Joe524

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15802
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าดัชนีแกว่งไซด์เวย์ขึ้นต่อได้ หลังจากที่เมื่อวานนี้พลิกกลับมาเป็นบวกได้ โดยคาดว่ายังคงมีแรงซื้อเข้ามาเก็งผลประกอบการไตรมาส 3/65 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และกลุ่มอื่นๆที่จะมีการทยอยประกาศตามมา

ขณะเดียวกัน ยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่เข้ามาส่งผลต่อตลาดหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ ยังคงเป็นช่วงที่ติดตามการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปรับตัวขึ้นเมื่อคืน

โดยให้แนวต้าน 1,580-1,585 จุด แนวรับ 1,555-1,560 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (17 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,185.82 จุด พุ่งขึ้น 550.99 จุด หรือ +1.86%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,677.95 จุด เพิ่มขึ้น 94.88 จุด หรือ +2.65% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,675.80 จุด พุ่งขึ้น 354.41 จุด หรือ +3.43%
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,167.73 จุด เพิ่มขึ้น 391.94 จุด หรือ +1.46% , ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 16,860.20 จุด เพิ่มขึ้น 247.3 จุด หรือ +1.49% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,094.93 จุด เพิ่มขึ้น 9.99 จุด หรือ +0.32%
ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 ต.ค.65.) ที่ระดับ 1,571.40 จุด เพิ่มขึ้น 10.62 จุด, +0.68%
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,388.46 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 ต.ค.65
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.(17 ต.ค.)ลดลง 15 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 85.46 ดอลลาร์/บาร์เรล¶
ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 ต.ค.) อยู่ที่ 3.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
เงินบาทเปิด 38.05 แข็งค่าจากวานนี้ ให้กรอบวันนี้ 37.95-38.15 จับตาทิศทาง Flow
"แบงก์ชาติ" แจงชัดดอกเบี้ยนโยบายไทยยังขึ้นได้ต่อเนื่อง พร้อมย้ำอัตราดอกเบี้ยสุทธิควรต้องเป็นบวกประเมินเศรษฐกิจไทยกว่าจะกลับเข้าสู่ระดับศักยภาพต้องใช้เวลาร่วม 1 ปีครึ่ง
คลังรับข้อเสนอภาคเอกชน ฟื้น "ช้อปดีมีคืน" เตรียมนำหารือ "อาคม" คลอดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี ส่วน "คนละครึ่งเฟส 6" ต้องรอเฟส 5 จบก่อน ประเมินจีดีพีปีนี้ โตตามเป้า 3-3.5% แน่ และขยับเป็น 4% ในปี 66 ได้รับแรงหนุนการท่องเที่ยว หลังเปิดประเทศ เตรียมทบทวนตัวเลขใหม่ปลายเดือนนี้ รัฐบาลมั่นใจเศรษฐกิจไทยจะคืนสู่ระดับก่อนโควิด-19 ภายในสิ้นปี 65 หรือต้นปี 66 เผย EEC มีความต้องการแรงงาน 475,688 ตำแหน่ง
บอร์ดบีโอไอ ปลื้ม 9 เดือนแรกปีนี้ แห่ขอรับบีโอไอ 4 แสนล้านบาท ไฟเขียวยุทธศาสตร์ส่งเสริมลงทุน 5 ปี พลิกโฉมประเทศสู่เศรษฐกิจใหม่ ด้าน "สมคิด" จี้รัฐขับเคลื่อนโครงการใหญ่ใน "อีอีซี" ดึงเชื่อมั่น
ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 เมื่อวันที่ 16 ต.ค.65 ว่า การที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้ต่ออายุเป็นผู้นำจีนอีกสมัย จะเป็นผลบวกต่อเศรษฐกิจจีนและไทย เพราะแนวนโยบายต่างๆ ยังคงดำเนินการได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ประกอบกับไทยและจีนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมายาวนาน
*หุ้นเด่นวันนี้

AAV (ฟินันเซีย ไซรัส) "เก็งกำไร" ราคาเป้าหมายจาก FSSIA 3.40 บาท ผลการดำเนินงาน 2H22 คาดฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญตามการเปิดประเทศทั้งไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออก คาดสามารถเพิ่มเที่ยวบินต่างประเทศเป็น 50% เทียบกับก่อน COVID-19 ได้ภายในสิ้นปีนี้ คาดปี 2565 จะขาดทุนเป็นปีสุดท้ายก่อนพลิกกำไรในปี 2566 ที่ 1.2 พันลบ. ตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว Catalyst บวกคือโอกาสที่จีนจะเริ่มเปิดประเทศปีหน้า
BBL (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า 180 บาท คาดมีกำไรสุทธิโตเด่นสุดของกลุ่มในไตรมาส 3/65 โดยมีกำไรสุทธิประมาณ 8,730 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 25.4%qoq และ 26.4%yoy
PLANB (พาย) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 7.80 บาท คาดกำไรมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 4/65 และปี 66 จากเม็ดเงินโฆษณาที่ฟื้นตัวขึ้นและประโยชน์จาก operating leverage ที่สูง เพราะต้นทุนการดำเนินงานส่วนใหญ่มีรูปแบบคงที่ โดยกำไรมี upside จากการปรับเพิ่มค่าโฆษณา OOH จากการแย่งงบการตลาดจากช่องทางทีวีและสื่อประเภทอื่น