͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: CKP ทุ่ม 2.1 หมื่นลบ.ซื้อหุ้นเพิ่มทุน หลวงพระบางพาวเวอร์ และจากผถห.เดิม  (อ่าน 56 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Fern751

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15944
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด

มจ.ซีเค พาวเวอร์ (CKP) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 6/2565 เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2565 มีมติเห็นชอบในการเข้าซื้อหุ้นสามัญในบริษัท หลวงพระบางพาวเวอร์ จำกัด (LPCL) มูลค่ารวม 21,521.76 ล้านบาท ประกอบด้วย

1.การเข้าซื้อหุ้นสามัญใน LPCL จากบริษัท พีที จำกัดผู้เดียว (PTS) ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน จำนวน 0.26 ล้านหุ้น (คิดเป็นสัดส่วน 8.00 % ของทุนจดทะเบียน และชำระแล้วของ LPCL จำนวน 32.00 ล้านบาท ณ วันที่จดทะเบียนจัดตั้ง LPCL) ซึ่งมีมูลค่ารวม 2.56ล้านบาท โดยภายหลังการเข้าทำรายการดังกล่าวทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทใน LPCL เพิ่มจาก 42.00% เป็น 50.00% ของทุนจดทะเบียนของ LPCL

2. การเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทในสัดส่วน 50% ของทุนจดทะเบียนของ LPCL ในวงเงินรวมสูงสุดไม่เกิน 21,519.20 ล้านบาท ตามพันธะผูกพันของบริษัทภายใต้สัญญาการลงทุนของผู้ถือหุ้น (Equity Contribution Agreement) ระหว่าง LPCL กับธนาคารผู้ให้กู้ โดยให้บริษัททยอยชำระเงินทุนดังกล่าวตามกำหนดการเรียกชำระเงินทุนของ LPCL จนกว่าการก่อสร้างโครงการไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง (โครงการ LPHPP) จะแล้วเสร็จตามแผนที่กำหนดไว้ (ภายในเดือนธันวาคม 2572)

นอกจากนี้ อนุมัติการเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกันในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินในรูปแบบเงินกู้ยืมผู้ถือหุ้น (Shareholders? Loan) แก่ LPCL ในกรณีการจัดหาเงินของ LPCL ไม่เพียงพอต่อการก่อสร้างโครงการ LPHPP ให้แล้วเสร็จตามแผนที่กำหนดโดยอาจจะเกิดจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นจากที่ประมาณการไว้(Cost Overrun) (หากมี)ในวงเงินรวมสูงสุดไม่เกิน 9,166.30ล้านบาท และเมื่อรวมดอกเบี้ยแล้วไม่เกิน 18,505.54 ล้านบาท ตามพันธะผูกพันของบริษัทภายใต้สัญญาให้การสนับสนุนทางการเงิน (SponsorsSupport Agreement) ระหว่าง LPCL กับธนาคารผู้ให้กู้

รวมทั้งการเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกันในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ PTS ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายหนึ่งของ LPCL ด้วยการชำระเงินทุนแทนในกรณีที่ PTS ไม่สามารถชำระเงินทุนตามส่วนของตนที่มีพันธะผูกพันได้จนงานก่อสร้างโครงการ LPHPP แล้วเสร็จ โดยบริษัทจะรับผิดชอบในวงเงินรวมสูงสุดไม่เกิน 14,336.60ล้านบาท และเมื่อรวมดอกเบี้ยแล้วไม่เกิน 29,737.81 ล้านบาท ตามพันธะผูกพันของบริษัทภายใต้สัญญาการลงทุนของผู้ถือหุ้น (Equity Contribution Agreement) ระหว่าง LPCL กับธนาคารผู้ให้กู้

ทั้งนี้ที่ประชุมได้อนุมัติแต่งตั้งให้ บริษัท แคปปิตอล แอ๊ดแวนเทจ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อแสดงความเห็นเกี่ยวกับความสมเหตุสมผลและประโยชน์ต่อบริษัท ความเป็นธรรมของราคาและเงื่อนไขของรายการที่เกี่ยวโยงกัน