เชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยโดยเฉพาะวัยรุ่นหนุ่มสาวที่เมื่อจะซักผ้าแล้วเผลอไปหยิบน้ำยาปรับผ้าแทน
น้ำยาซักผ้าเสียได้ ก็ด้วยความเป็นของเหลวเหมือนน้ำเหมือนกันนี้เอง กระนั้นจริง ๆ เราสามารถสังเกตได้เลยง่าย ๆ ว่าหากเป็นน้ำยาใช้ซักผ้าแล้วจะมีความใสมากกว่า ก่อนหยิบใช้จึงต้องดูให้ดี กระนั้นน้ำยาปรับผ้าทำไมถึงเป็นสีขุ่นกว่าได้เรื่องนี้มีคำตอบอีกเช่นเคย
“น้ำยาซักผ้า” ทำไมมีความใสมากกว่าน้ำยาปรับผ้า??ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในปัจจุบันนี้ผู้คนหันมาสนใจน้ำยาใช้ซักผ้ามากกว่า
ผงซักฟอก ด้วยความสะดวกสบายในการใช้งาน เพราะแค่เปิดฝาแล้วเทน้ำยาลงในกะละมัง หรือเครื่องซักผ้าเท่านี้ก็เสร็จแล้ว ไม่ต้องเปื้อนมือที่ไปหยิบช้อนตักแฟ้บมาเทในน้ำ จึงเกิดเป็นหลายยี่ห้อให้ได้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ
จากนั้นก็มีการพัฒนาต่อเนื่องจนเกิดเป็นน้ำยาปรับผ้าที่ช่วยเพิ่มความหอมสดชื่นยาวนานให้กับเสื้อผ้าต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน และเมื่อเป็นของเหลวเหมือนกันทำให้บางคนหยิบผิดมาให้สลับไปมา และขืนเอาน้ำยาใช้ซักผ้าไปเทแช่ผ้าเพื่อเพิ่มความหอมแล้วเอามาใส่ เห็นทีได้คันกันไปข้าง
หากลองสังเกตให้ดี จะพบว่า “น้ำยาใช้ซักผ้า” นั้นจะมีความใสมากกว่า “น้ำยาปรับผ้านุ่ม” ถามถึงเหตุผลของความใส่ขุ่นนี้แล้วก็อธิบายได้เลยทันทีว่า ขึ้นอยู่กับสารละลายในน้ำที่สารในน้ำยาใช้ซักผ้าจะละลายน้ำได้ดีกว่า และมีน้ำยาหลายชนิดมาผสมอยู่ด้วยกัน ทำให้เป็นเนื้อเดียวกันมองดูแล้วจึงมีความใสมากกว่า
ในทางตรงกันข้ามน้ำยาปรับผ้านุ่มจะมีสารละลายได้เฉพาะในไขมันเพื่อให้เส้นใยผ้ามีความนุ่มนิ่ม และปนอยู่กับพวกสารละลายในน้ำได้ดี และต้องใช้อีมัลซิไฟเออร์ผสมกันอยู่เพื่อให้คงตัว และอนุภาคขนาดเล็กจิ๋วนี้ก็จะกระจายอยู่ในน้ำ จัดเป็นคอลลอยด์ประเภทหนึ่ง ความเข้มข้นจึงมีสูงมากกว่า
ดังนั้นก่อนที่จะหยิบเอามาใช้ก็ต้องพิจารณาสีความขุ่นใสนี้ด้วยนะวัยรุ่นหนุ่มสาวทั้งหลาย แต่ถ้าพูดถึงราคาแล้วเผื่อว่าใครจะเอาไปพิจารณาตัดสินใจซื้อใช้งานก็ต้องยอมรับด้วยว่า
แฟ้บซักผ้ามีราคาถูกกว่าใด ๆ ทั้งหมดทั้งมวลนี้
เพื่อให้การใช้งานซักผ้าทำความสะอาดได้อย่างหมดจดแบบถูกวิธี หลังจากนี้เชื่อว่าหลาย ๆ คนจะเข้าใจกันมากขึ้นโดยเฉพาะหนุ่มสาววัยรุ่นอยู่หอ อยู่คอนโด หรืออยู่อพาร์ทเม้นต์ที่ต้องซักผ้าเองใด ๆ จะเลือกหยิบใช้งานน้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่มได้ถูกกันแล้ว ย้ำอีกครั้งน้ำยาปรับผ้านุ่มขุ่นมากกว่า ท่องไว้เลยก็ได้เพราะไม่อย่างนั้นไม่คันคะเยอไม่รู้จบแน่นอน
