͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: สหภาพแรงงานรถไฟ-กปภ.เตรียมยื่นค้านแปรรูปรัฐวิสาหกิจ-พ.ร.บ.ขนส่งทางราง  (อ่าน 16 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Joe524

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15802
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
สหภาพแรงงานรถไฟ-กปภ.เตรียมยื่นค้านแปรรูปรัฐวิสาหกิจ-พ.ร.บ.ขนส่งทางราง

ายสราวุธ สราญวงศ์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) เปิดเผยว่า สหภาพฯการรถไฟ ได้เข้าร่วมกับสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการประปาส่วนภูมิภาค (สร.กปภ.) เพื่อร่วมแสดงพลังการคัดค้านแปรรูปรัฐวิสาหกิจ และเพื่อให้ยับยั้งการพิจารณาร่างพ.ร.บ.การขนส่งทางราง พ.ศ.... โดยจะเข้ายื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี ในวันพุธที่ 9 มี.ค. 2565 เวลา 10.00 น. ณ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล

สำหรับสถานการณ์เร่งด่วนที่รัฐวิสาหกิจ 2 แห่งจะต้องร่วมกันปกป้อง คือ

กรณีการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ที่จะยกสัมปทานการให้บริการน้ำประปาให้เอกชนในเขตจังหวัดปทุมธานีและในพื้นที่ภาคตะวันออกและเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก

ส่วนกรณีการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่จะมีการออกกฎหมายชื่อว่า "ร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางราง พ.ศ...." สาระสำคัญ คือ จะแปรรูปกิจการขนส่งทางรางที่เป็นของรัฐให้เอกชน

การเข้ายื่นหนังสือคัดค้านต่อนายกรัฐมนตรี ร่วมกับ สหภาพฯการประปาส่วนภูมิภาค และสหภาพฯการรถไฟ เพื่อแสดงพลังปกป้องรัฐวิสาหกิจปกป้องสมบัติของชาติ เพื่อส่งต่อมรดกของแผ่นดินให้ลูกหลานในวันข้างหน้า

สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) พร้อมสมาชิก ได้ระบุถึงการแสดงพลังคัดค้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจว่า ด้วยสถานการณ์การแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่ได้สืบทอดมาอย่างยาวนานอย่างไม่ลดละความพยายาม แต่ยิ่งเพิ่มแรงขับเคลื่อนอย่างรวดเร็วขึ้นในรัฐบาลปัจจุบันที่ได้ให้เอกชนเข้ามาแสวงหาประโยชน์ในรัฐวิสาหกิจในรูปแบบต่างๆ ทั้งการให้สัมปทาน การตั้งบริษัทลูกแล้วถ่ายโอนภารกิจทรัพย์สินจากบริษัทแม่ไปยังบริษัทลูก การร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชนที่เรียกว่า PPP ซึ่งที่สุดแล้วมันคือ "การแปรูปรัฐวิสาหกิจ" โดยอ้างว่าเพื่อประสิทธิภาพและลดภาระงบประมาณของรัฐ แต่ที่สุดแล้วการแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่เข้มข้นนับตั้งแต่ปี 2544 จนถึงปัจจุบันรูปธรรมที่แจ่มชัด คือ ผลประโยชน์จะตกที่กลุ่มทุนและนักธุรกิจทางการเมือง แต่ความเดือดร้อน ที่เลวร้ายที่สุดผลกระทบทั้งหลายก็เกิดแก่ประชาชนผู้ใช้บริการในราคาที่แพงขึ้น เช่น ราคาพลังงาน น้ำ ไฟฟ้า ประปา ยา สื่อสารโทรคมนาคม การขนส่งสาธารณะ และอื่นๆ อีกมากมาย จนประเทศไทยตกอยู่ในสภาวะ"ความเหลื่อมล้ำสูงที่สุดในโลก" "ประชาชนเดือดร้อนทั้งแผ่นดิน"