͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: ดอลลาร์แข็งค่า รับอานิสงส์แรงซื้อสกุลเงินปลอดภัย  (อ่าน 13 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ PostDD

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 14907
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
ดอลลาร์แข็งค่า รับอานิสงส์แรงซื้อสกุลเงินปลอดภัย

ดอลลาร์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลัก ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตยูเครน

นอกจากนี้ ยูโรร่วงลงเทียบดอลลาร์และเยน โดยนักลงทุนวิตกว่าการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันอันเนื่องจากวิกฤตการณ์ในยูเครนจะกระตุ้นเงินเฟ้อ และจะกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของยุโรป

ณ เวลา 23.50 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.54% สู่ระดับ 115.40 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.04% สู่ระดับ 125.37 เยน และร่วงลง 0.56% สู่ระดับ 1.086 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.52% สู่ระดับ 99.16

นักลงทุนยังคงจับตาวิกฤตยูเครน ขณะที่รัสเซียได้ส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครนเป็นวันที่ 12

ล่าสุด นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า รัสเซียพร้อมยุติปฏิบัติการทางทหารต่อยูเครน "โดยทันที" หากยูเครนปฏิบัติตามเงื่อนไขของรัสเซีย

นายเพสคอฟกล่าวถึงรายละเอียดของเงื่อนไขต่างๆในวันนี้ ซึ่งถือเป็นการเปิดเผยจุดยืนของรัสเซียที่ชัดเจนที่สุดนับตั้งแต่ที่รัสเซียใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อยูเครนในวันที่ 24 ก.พ.

ทั้งนี้ นายเพสคอฟระบุว่า เงื่อนไขที่ยูเครนจะต้องปฏิบัติตามเพื่อให้รัสเซียยุติปฏิบัติการทางทหาร ได้แก่ 1) ยูเครนจะต้องยุติการดำเนินการทางทหาร 2) ยูเครนจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่การเป็นประเทศเป็นกลาง โดยยูเครนจะต้องปฏิเสธความตั้งใจที่จะเข้าร่วมกลุ่มพันธมิตรใดๆ 3) ยูเครนจะต้องให้การรับรองว่าไครเมียเป็นดินแดนของรัสเซีย 4) ยูเครนจะต้องให้การรับรองว่าสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์และลูฮันสก์ เป็นรัฐอิสระ

นายเพสคอฟกล่าวว่า หากยูเครนยอมรับเงื่อนไขทั้ง 4 ข้อดังกล่าว รัสเซียก็จะยุติปฏิบัติการทางทหารต่อยูเครนโดยทันที

ตลาดจับตาตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพฤหัสบดี ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 15-16 มี.ค. ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่ 2 ในปีนี้

นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนนี้ ซึ่งไม่รุนแรงเหมือนกับที่นักวิเคราะห์บางรายคาดว่าจะปรับขึ้น 0.50%