͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: ภาวะตลาดเงินบาท: บาทปิด 32.97 อ่อนค่าจากเงินทุนไหลออก คาดกรอบพรุ่งนี้ 32.85-33.10  (อ่าน 19 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ PostDD

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 14907
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
ภาวะตลาดเงินบาท: บาทปิด 32.97 อ่อนค่าจากเงินทุนไหลออก คาดกรอบพรุ่งนี้ 32.85-33.10

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 32.97 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วง เช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.70 บาท/ดอลลาร์

ปิดตลาดเย็นนี้ เงินบาทปรับอ่อนค่าสุดในรอบ 1 เดือน โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 32.70-33.01 บาท/ดอลลาร์ หลังเงินทุนไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยง โดยวันนี้ต่างชาติขายพันธบัตรระยะสั้น 9,000 ล้านบาท ขณะที่ตลาดหุ้นไทยปรับลงค่อนข้างแรง และ ยังเป็นการขายสุทธิ หลังจากเหตุการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครนยังไม่มีสัญญาณคลี่คลาย ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งขึ้นต่อ เนื่อง

"ตอนนี้ สถานการณ์ของรัสเซีย-ยูเครน ยังไม่แน่นอนมีโอกาสพลิกไปพลิกมาได้ตลอด มีโอกาสจะไปได้ทั้ง 2 ทาง ซึ่งหาก สถานการณ์คลี่คลาย ราคาน้ำมันไม่วิ่งขึ้นไปอีก ก็จะช่วยลดแรงกดดันของสกุลเงินในประเทศที่พึ่งพาการนำเข้าน้ำมัน เช่น ไทยลงได้" นัก บริหารเงิน ระบุ

อย่างไรก็ดี ช่วงนี้ต้องจับตาสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนทิศทางราคาน้ำมัน และกระแสเงินทุนไหลออก ที่มีโอกาสจะขยายวงเพิ่มขึ้น

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทยังมีทิศทางอ่อนค่าต่อ ให้กรอบที่ 32.85-33.10 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ
เงินเยนอยู่ที่ระดับ 115.08 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 114.85 เยน/ดอลลาร์
เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0852 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0837 ดอลลาร์/ยูโร
ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,626.70 จุด ลดลง 45.02 จุด (-2.69%) มูลค่าการซื้อขาย 127,806 ล้านบาท
สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,340.55 ลบ.(SET+MAI)
กลุ่มงานโกล.มาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มเคลื่อน
ไหวในกรอบ 32.50-33.20 บาท/ดอลลาร์ แนะระมัดระวังกระแสเงินทุนไหลเข้าสินทรัพย์สกุลเงินบาทอาจกลับทิศ ขณะที่สภาพคล่องใน
ตลาดโลกตึงตัวมากขึ้น และต้นทุนการผลิตที่ทะยานขึ้นเพิ่มความเสี่ยงด้านต่ำต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย
กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ยันไม่ห้ามประชาชนจัดกิจกรรมช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ โดยยังสามารถเดินทางข้ามจังหวัด
ได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้มาตรการ VUCA พร้อมเตรียมนำเสนอมาตรการควบคุมโควิดช่วงสงกรานต์เข้าที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ 18 มี.ค.นี้
รมช.คลัง ชี้ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซินในขณะนี้ แม้สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก
ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง พร้อมขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยประหยัดการใช้น้ำมัน และหันไปใช้บริการขนส่งสาธารณะกันมากขึ้น เพื่อประคอง
ระยะวิกฤตินี้ให้ผ่านไปก่อน
ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ในอีก 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 113.03
ปรับตัวเพิ่มขึ้น 20.4% จากเดือนก่อนหน้า มาอยู่ในเกณฑ์ "ทรงตัว" โดยมองว่าเงินทุนไหลเข้าเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด ขณะที่
ปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นมากที่สุด คือ ความกังวลต่อสถานการณ์ตึงเครียดในรัสเซีย-ยูเครน และความไม่แน่นอนเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด
เงินรูเบิลของรัสเซีย อ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังมีปริมาณการซื้อขายนอกประเทศ
เบาบาง ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ในประเทศ จะปิดการซื้อขายไปอย่างน้อยจนถึงวันพุธนี้ (9 มี.ค.)
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศเตือนถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจจากวิกฤตยูเครน โดยระบุว่าความขัด
แย้งในยูเครนได้ทำให้ราคาพลังงานและธัญพืชพุ่งสูงขึ้น อีกทั้งยังมีผู้อพยพกว่า 1 ล้านคนไหลเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน และทำให้ชาติตะวันตก
ประกาศชุดมาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งต่อรัสเซีย
สถาบันวิจัย Sentix ของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนในยูโรโซนร่วงลงแตะระดับ -7.0 ในเดือน
มี.ค. จากระดับ 16.6 ในเดือนก.พ. โดยได้รับแรงกดดันจากวิกฤตความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงผลกระทบที่มีต่อ
เศรษฐกิจโลก
สัปดาห์นี้สหรัฐฯ จะรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ ได้แก่ ดุลการค้าเดือนม.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราย
สัปดาห์, อัตราเงินเฟ้อเดือน ก.พ. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนมี.ค.