͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: III เปิดบริการส่งสินค้าทางรางไทย-ลาว-จีน Q2/65,ส่ง ANI เข้าตลาดหุ้น Q4/65  (อ่าน 22 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Cindy700

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15687
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
III เปิดบริการส่งสินค้าทางรางไทย-ลาว-จีน Q2/65,ส่ง ANI เข้าตลาดหุ้น Q4/65

นายวิรัช นอบน้อมธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการเงิน บมจ.ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ (III) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดให้บริการขนส่งทางราง (Rail Freight) ในเส้นทางไทย-ลาว-จีน ภายในช่วงไตรมาส 2/65 หลังจากมีการเปิดให้บริการรถไฟสายจีน-.ลาวไปเมื่อเดือน ธ.ค.64 ซึ่งช่วยลดระยะเวลาการขนส่งสินค้าลงค่อนข้างมาก และปัจจุบันการขนความต้องการการขนส่งสินค้าจากไทยไปยังจีน และจากจีนมายังไทยมีจำนวนมาก
ปัจจุบันบริษัทได้เจรจากับพันธมิตรทั้งในจีนและลาวไว้แล้วพอสมควร ซึ่งอยู่ระหว่างการพูดคุยเกี่ยวกับแผนการลงทุนในส่วนของตู้คอนเทนเนอร์ที่ใช้สำหรับการขนส่งสินค้า และรูปแบบการร่วมลงทุน
ทั้งนี้ บริษัทวางงบลงทุนราว 500 ล้านบาทเพื่อใช้ในการเข้าร่วมลงทุนเพื่อที่จะขยายการลงทุนต่อเนื่องทั้งในกลุ่มธุรกิจการขนส่งทางราง ธุรกิจการขนส่งทางเรือ (Sea Freight) และธุรกิจโลจิสติกส์สำหรับสินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์ (Chemical) ทั้งในรูปแบบของการเข้าซื้อกิจการ (M&A) และการเข้าร่วมลงทุน คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในช่วงครึ่งปีหลังปี 65 นอกจากนี้บริษัทฯยังได้เตรียมขยายพื้นที่คลังสำหรับสินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์อีก 2,000-3,000 ตารางเมตร จากปัจจุบันที่มีการใช้พื้นที่เต็มทั้งหมดแล้วกว่า 25,000 ตารางเมตร และยังคงมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง หลังจากมีข่าวเกี่ยวกับการรั่วไหลของน้ำมันในจังหวัดระยองทำให้ผู้ประกอบการตื่นตัวและหันมาให้ความสำคัญกับการเก็บสินค้าดังกล่าวมากขึ้น สำหรับบริษัทย่อย บริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ANI) คาดว่าจะสามารถนำเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ภายในไตรมาส 4/65 เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาสู่การเป็นผู้นำด้านการให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรในภูมิภาค (Regional Logistics Player) โดยเป็นตัวแทนสายการบินต่างๆกว่า 20 สายการบิน และมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศไทย และมีสำนักงานครอบคลุม ฮ่องกง สิงคโปร์ เวียดนาม พม่า และกัมพูชา ซึ่งเป็นฐานการผลิตและการกระจายสินค้าในระดับนานาชาติ นายวิรัช กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้ปี 65 ไว้ที่ไม่ต่ำกว่า 30% จากปีก่อน 3,012.94 ล้านบาท โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดการณ์ GDP ของประเทศไทยปีนี้ที่ 3.4% และคาดว่าการส่งออกของไทยจะมีการขยายตัว 3.0-4.0% ซึ่งในธุรกิจขนส่งทางอากาศ (Air Freight) ธุรกิจขนส่งทางเรือ (Sea Freight) ธุรกิจโลจิสติกส์สำหรับสินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์ (Chemical) ยังมีความต้องการการขนส่งที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และค่าขนส่งยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงด้วย "ความต้องการการขนส่งยังคงมีสูงมากในปัจจุบัน และค่าขนส่งเองก็ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงด้วย โดยเฉพาะในส่วนของการขนส่งทางอากาศที่เป็นสัดส่วนรายได้หลักมากกว่า 50% จะเห็นการเติบโตมากขึ้นหลังจากสายการบินต่างๆเริ่มกลับมาให้บริการการบิน นอกจากนี้เรายังเพิ่มบริการขนส่งเพิ่มเติม เราจึงมั่นใจว่ารายได้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายแน่นอน"นายวิรัช กล่าว ทั้งนี้ยังมองถึงการเกาะติดโอกาสด้านธุรกิจการให้บริการโลจิสติกส์ สำหรับลูกค้ากลุ่มอี-คอมเมิร์ซ โซเชียลคอมเมิร์ซ และ Domestic Delivery ที่มีการขยายตัว โดยที่ผ่านมาบริษัท ได้ร่วมมือกับ บมจ. สบาย เทคโนโลยี พัฒนาธุรกิจให้ ShipSmile และจับมือกับพันธมิตรผู้ให้บริการ Delivery ทุกค่าย และยังมีการเพิ่มบริการอื่นๆ เป็นให้เป็นศูนย์รวมระบบแฟรนไชส์ ทั้งจุดรับส่งพัสดุ และบริการรูปแบบเคาน์เตอร์เซอร์วิสอื่นๆ ปัจจุบันมีจำนวนสาขาประมาณ 5,000 สาขา และตั้งเป้าหมายครบ 9,000 สาขาในปีนี้