โบรคเกอร์ คาด PACO แนวโน้มปี 65
เติบโตขึ้นต่อเนื่องจากคำสั่งซื้อใหม่ ชี้เป้าซื้อ ราคา 3.30 บาท
สำหรับแนวโน้ม 1Q65 คาดผลประกอบการฟื้นตัว QoQ รายได้จะกลับมาอยู่ที่ระดับ 180- 190 ล้านบาท จากสถานการณ์ COVID-19 ที่ผ่อนคลายลง ส่วนรายได้รวมปี 65 คาดว่าจะ ขยายตัวประมาณ +25%YoY อยู่ที่ 871 ล้านบาท โดยในส่วนของอะไหล่ REM มีปัจจัยหนุน จากตลาดส่งออกที่ขยายตัวดีตามประเทศคู่ค้า และตลาดรถยนต์ในประเทศฟื้นตัว ประกอบ กับแผนการขยายสาขา PACO Auto Hub ในปี 65 ให้ได้ครบ 300 สาขา (ปัจจุบัน 200 สาขา) พร้อมวางจา หน่ายสินค้าใหม่ ชิ้นส่วนช่วงล่าง ไดร์ชาร์จ ไดร์สตาร์ท ช่วยเพิ่มรายได้มากขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังได้รับงานผลิตชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศกับค่ายรถยนต์รายหนึ่งจา นวน 2 รุ่น มูลค่าสัญญา 800-1,200 ล้านบาท เฉพาะสัญญา OEM 4 ปี มูลค่า 800 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการติดตั้งเครื่องจักรเพิ่มในช่วงเดือน มี.ค.คาดว่าจะเริ่มทยอยรับรู้ รายได้ตั้งแต่ 2Q65 เฉลี่ยในปีนี้ราว 100 ล้านบาท และจะทยอยเพิ่มเป็น 200 ล้านบาทในปี หน้า ถือเป็นบวกในแง่ของการรับประกันคา สั่งซื้อที่จะมีเข้ามาอย่างสม่า เสมอ รวมถึงมีโอกาส ได้งานจากรถยนต์รุ่นอื่นๆ เข้ามาเพิ่มขึ้น ทั้ งรถยนต์เครื่องสันดาปภายใน และรถยนต์ EV จาก ข้อกาหนดเรื่องการ Sourcing Local Part ตามนโยบายสนับสนุนการผลิตและการใช้รถยนต์ EV ของรัฐบาล อย่างไรก็ตามจาก Margin งาน OEM ที่ต่า กว่า REM อาจทา ให้อัตรากำไร ขั้นต้นรวมจะลดลงจากเดิมแต่จะไม่กระทบมาก เพราะได้ชดเชยจากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยใช้เงินลงทุนสำหรับค่าแม่พิมพ์และเครื่องจักรใหม่ไม่มาก
แนะนำ "ซื้อ" ราคาเหมาะสมปี 65 ที่ 3.30 บาท
ทั้งนี้ปรับลดประมาณการกำไรปกติในปี 65-66 ลงจากเดิม 7-10% อยู่ที่ 117 ล้านบาท +32%YoY และ 144 ล้านบาท +23%YoY ตามลำดับ ประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 65 ที่ 3.30 บาท (เดิม 3.50 บาท) อิง P/E Multiple ที่ 28 เท่า (เท่ากับ EPS Growth CAGR 2 ปี) และ แนะนำ "ซื้อ" คงมุมมองบวกต่อแนวทางการขยายฐานรายได้ รวมถึงการออกสินค้าใหม่ แบตเตอรี่คูลเลอร์รถยนต์ไฟฟ้าแบบ BEV และ PHEV ซึ่งเป็นการรุกตลาดชิ้นส่วนยานยนต์ ไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ช่วยเพิ่มโอกาสเติบโตได้อีกในระยะยาวตามการ เปลี่ยนแปลงของเทรนโลก พร้อมกันนี้บริษัทประกาศจ่ายปันผล 0.05 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield 1.6% โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 5 พ.ค.65