͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: ยูเครนโต้ข่าวถล่มภูมิภาคดอนบาส หวั่นรัสเซียใช้เป็นข้ออ้างบุกโจมตี  (อ่าน 11 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Hanako5

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13281
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
ยูเครนโต้ข่าวถล่มภูมิภาคดอนบาส หวั่นรัสเซียใช้เป็นข้ออ้างบุกโจมตี

ทางการยูเครนออกแถลงการณ์ปฏิเสธข่าวที่ว่า ยูเครนได้ยิงระเบิดโจมตีภูมิภาคดอนบาส ซึ่งกลุ่มกบฎฝักใฝ่รัสเซียยึดครองอยู่ ท่ามกลางความกังวลที่ว่ารัสเซียอาจใช้ข่าวดังกล่าวเป็นข้ออ้างในการโจมตียูเครน

ก่อนหน้านี้ สำนักข่าว RIA ของทางการรัสเซียรายงานว่า กองทัพยูเครนได้โจมตีกลุ่มกบฏในภูมิภาคดอนบาส ซึ่งถือเป็นเขตหยุดยิงตามข้อตกลงมินสก์

ทั้งนี้ กองทัพยูเครนยืนยันว่าไม่มีการโจมตีแต่อย่างใด ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศยูเครนแถลงว่า กลุ่มกบฎฝักใฝ่รัสเซียในดอมบาสได้โจมตีหมู่บ้านแห่งหนึ่งทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งได้สร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนของประชาชน

"เราขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายประณามการที่รัสเซียละเมิดข้อตกลงมินสก์ ท่ามกลางสถานการณ์ที่มีความตึงเครียดในขณะนี้" แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศยูเครนระบุ

ทางด้านสหรัฐระบุเตือนว่า รัสเซียกำลังหาเหตุและจัดฉากเพื่อสร้างเงื่อนไขในการโจมตียูเครนได้ทุกขณะ

สภาดูมา ซึ่งเป็นสภาผู้แทนราษฎรรัสเซีย ได้ให้การอนุมัติก่อนหน้านี้ต่อร่างกฎหมายรับรองสถานะการเป็นรัฐอิสระของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์-ลูฮันสก์ ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคดอนบาสของยูเครน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ฝักใฝ่รัสเซีย

นายยาเชสลาฟ โวโลดิน ประธานสภาดูมา กล่าวว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้จะถูกส่งต่อไปยังประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินโดยทันทีเพื่อลงนามเป็นกฎหมาย ซึ่งจะเป็นการรับรองสถานะการเป็นรัฐอิสระและมีอธิปไตยของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์-ลูฮันสก์

"ยูเครนไม่ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงมินสก์ ขณะที่ประชาชนของเราที่อยู่ในดอนบาสจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือ และปกป้องจากภัยคุกคามจากภายนอก รวมทั้งจะเป็นการสร้างเสถียรภาพในภูมิภาค" นายโวโลดินกล่าว
อย่างไรก็ดี หากปธน.ปูตินให้การรับรองกฎหมายดังกล่าวอย่างเป็นทางการ ก็จะเป็นการสร้างความขัดแย้งครั้งใหม่ต่อวิกฤตการณ์ในยูเครน เนื่องจากการรับรองสถานะการเป็นรัฐอิสระของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์-ลูฮันสก์ จะถือเป็นการฉีกข้อตกลงมินสก์ ซึ่งมีเป้าหมายในการยุติสงครามแบ่งแยกดินแดนในดอนบาส หลังจากที่ได้คร่าชีวิตของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนและกองกำลังยูเครนถึง 15,000 คน