͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดพุ่ง $30.50 วิตกสงครามยูเครนหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย  (อ่าน 22 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Beer625

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13322
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดพุ่ง $30.50 วิตกสงครามยูเครนหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 1,900 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี (17 ก.พ.) เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนและข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 30.50 ดอลลาร์ หรือ 1.63% ปิดที่ 1,902 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2564

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ หรือ 1.14% ปิดที่ 23.875 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 29 ดอลลาร์ หรือ 2.73% ปิดที่ 1,092.7 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 87.50 ดอลลาร์ หรือ 3.9% ปิดที่ 2,359.10 ดอลลาร์/ออนซ์

นักลงทุนเข้าทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยนายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า รัสเซียเตรียมการโจมตียูเครน โดยจะมีการใช้อาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง

"รัสเซียจะไม่โจมตียูเครนด้วยอาวุธธรรมดา และการโจมตีจะมีขึ้นในอีกไม่กี่วัน" นายบลิงเกนกล่าวในการประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เมื่อวานนี้ พร้อมระบุว่า รัสเซียได้ตรึงกำลังทหารกว่า 150,000 นายตามแนวชายแดนยูเครน รวมทั้งมีกำลังทหารในเบลารุส และคาบสมุทรไครเมียที่พร้อมโจมตีในอีกไม่กี่วัน

นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 23,000 ราย สู่ระดับ 248,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 219,000 ราย

ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 4.1% ในเดือนม.ค. สู่ระดับ 1.638 ล้านยูนิต โดยได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของราคาวัสดุก่อสร้าง และสภาพอากาศที่หนาวเย็น

นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก ลดลงสู่ระดับ 16.0 ในเดือนก.พ. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 19.0 จากระดับ 23.2 ในเดือนม.ค.