ภาวะ
ตลาดหุ้นไทยปิดลบ 1.28 จุด แกร่งกว่าตลาดสหรัฐ จับตาสต๊อกน้ำมันดิบ-ตัวเลขส่งออกไทย
ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,656.96 จุด ลดลง 1.28 จุด (-0.08%) มูลค่าการซื้อขาย 80,864.60 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกและลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,666.60 จุด และระดับต่ำสุด 1,656.47 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 554 หลักทรัพย์ ลดลง 1,166 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 522 หลัก ทรัพย์
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกและลบ แต่ถือว่าแข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นสหรัฐในช่วงนี้ เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐ ผันแปรไปตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Bond Yield) ค่อนข้างมาก แต่ทางฝั่งของตลาดเอเชีย หรือตลาดหุ้นไทย จะอ่อนไหวต่อบอนด์ยีลด์สหรัฐน้อยกว่า เพราะตลาดหุ้นบ้านเราไม่ได้มีคุณสมบัติเป็นหุ้นเทคโนโลยี หรือหุ้นเติบโต (Growth Stock) แต่เป็นหุ้น Value เป็นส่วนใหญ่ ทำให้แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐจะปรับตัวลงแต่เราก็ยังสามารถยืนบวกได้
ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก ตอบรับธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ทั้งประเภท 1 ปีและ 5 ปี รวมทั้งการที่ญี่ปุ่นรายงานยอดส่งออกที่แข็งแกร่งในเดือนธ.ค.
ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้ นายณัฐชาต คาดว่า ตลาดฯ น่าจะแกว่งตัวไซด์เวย์ หากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ ออกมาไม่ได้ปรับตัวขึ้นไปมากกว่าที่ตลาดคาด แต่หากสูงกว่าคาดจะส่งผลกระทบต่อการปรับลงของหุ้นกลุ่มพลังงานในบ้านเรา ซึ่งมีน้ำหนักต่อดัชนีค่อนข้างมาก
ทั้งนี้แนะนักลงทุนติดตามการเปิดเผยตัวเลขการส่งออก นำเข้าของประเทศไทย ในวันพรุ่งนี้ ว่าจะยังคงรักษาระดับการเติบโตในระดับสูงได้หรือไม่ พร้อมให้แนวต้าน 1,680 จุด และแนวรับ 1,640 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,929.14 ล้านบาท ปิดที่ 62.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 2,892.54 ล้านบาท ปิดที 4.74 บาท ลดลง 0.14 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,658.59 ล้านบาท ปิดที่ 141.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,905.23 ล้านบาท ปิดที่ 47.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,776.63 ล้านบาท ปิดที่ 39.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
