ดาวโจนส์บวกกว่า 100 จุด คาดเฟดไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย หลังว่างงานพุ่ง, PPI ต่ำคาด
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ ขานรับตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ต่ำกว่าคาดการณ์ รวมทั้งตัวเลขว่างงานที่พุ่งขึ้นในสหรัฐ ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันต่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ณ เวลา 21.48 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 36,423.46 จุด บวก 133.14 จุด หรือ 0.37%
ราคาหุ้นเดลตา แอร์ไลน์พุ่งขึ้นกว่า 3% หลังเปิดเผยกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 4 โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบิน หลังได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต พุ่งขึ้น 9.7% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ที่มีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในเดือนพ.ย.2553 แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.8% หลังจากดีดตัวขึ้น 9.6% ในเดือนพ.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PPI ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.4% หลังจากดีดตัวขึ้น 0.8% ในเดือนพ.ย.
ดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.5% หลังจากดีดตัวขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ย.
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 23,000 ราย สู่ระดับ 230,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2564 และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 200,000 ราย
ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสูงกว่าระดับ 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
ขณะเดียวกัน ตลาดจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ โดยธนาคารขนาดใหญ่ เช่น เจพีมอร์แกน เชส, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โกจะเปิดเผยผลประกอบการในวันพรุ่งนี้