͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: AIT วางแผนดันรายได้ปี 65 โต 5% แตะ 6.8 พันลบ.  (อ่าน 26 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Beer625

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13322
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
AIT วางแผนดันรายได้ปี 65 โต 5% แตะ 6.8 พันลบ.หลังปี 64 ทะลุเป้า 6.5 พันลบ.

นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี (AIT) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 64 มั่นใจว่าจะทำรายได้เติบโตกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ 6,500 ล้านบาท หลังจากช่วง 9 เดือนแรกทำรายได้จากงบเฉพาะกิจการแล้วกว่า 5,414 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 375 ล้านบาท

ปัจจุบัน บริษัทมีงานที่รอส่งมอบ (Backlog) ประมาณ 7,800 ล้านบาท และยังมีงานที่อยู่ระหว่างรอคำสั่งซื้อจากลูกค้า (Waiting for P/O) อีกประมาณ 300 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นงานจากภาครัฐและองค์กร

ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 65 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตกว่า 5% หรือแตะระดับ 6,800 ล้านบาท ถือเป็นการตั้งเป้ารายได้แบบคอนเซอร์เวทีฟ (Conservative) โดยจะมุ่งเน้นตลาดด้าน Cloud Platform, Big Data Analytics, SDN, Cyber Security, และ IOT เพิ่มเติมจากธุรกิจขายระบบโครงสร้างพื้นฐาน ICT ต่างๆ นอกจากนั้น AIT ยังจะสร้างรายได้จากธุรกิจก่อสร้างต่างๆ เช่น Data Center, สถานีไฟฟ้าย่อย(Electrical Substation), และนำสายสื่อสารลงดิน เป็นต้น

"จะรู้แน่ชัดถึงผลประกอบการปี 2564 ในวันประชุมคณะกรรมการบริษัทวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 พร้อมพิจารณาปันผลงวดปลายปี จึงถือได้ว่าเป็นปีที่บริษัทประสบความสำเร็จอย่างยิ่งอีกปีหนึ่ง และยังมี Backlog อีกมากที่จะส่งผลให้ผลประกอบการในปี 65 เป็นไปตามเป้าหมาย"นายศิริพงษ์ กล่าว
สำหรับปี 65 และอีก 3 ปีข้างหน้า AIT มองภาพรวมว่าองค์กรต่างๆมองหาเทคโนโลยีที่สามารถประมวลผลแบบเรียลไทม์ เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการนำข้อมูลต่างๆ ไปปรับใช้สำหรับกลยุทธ์ทางธุรกิจต่าง ๆ ทำให้มีข้อมูลจำนวนมหาศาลเกิดขึ้น และเพื่อสอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัล คาดว่าจะมีแนวโน้มเติบโตได้ดี โดยประเมินภาพตลาดรวมจะขยายตัวกว่า 9-10% ต่อปี เนื่องจากหลายภาคธุรกิจเร่งปรับโครงสร้างองค์กรที่เน้นขับเคลื่อนมูลค่าเพิ่มด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้น

โดยเฉพาะในส่วนธุรกิจ บริการดิจิทัล คาดว่าจะขยายตัวในอัตรา 11-12% ต่อปี โดยมีปัจจัยหนุนหลักจาก 1) การพัฒนาโครงข่ายเทคโนโลยี 5G ภายใต้ แผนยุทธศาสตร์ของภาครัฐที่จะเชื่อมโยงสัญญาณให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ภายในปี 65 และ 2) รูปแบบการใช้ชีวิตประจำวัน และการทำงานที่มีแนวโน้มจะยังคงพึ่งพาบริการผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะการซื้อขายสินค้าและข้อมูล ข่าวสารออนไลน์

นายศิริพงษ์ กล่าวว่า ในระยะ 30 ปีที่ผ่านมา เราได้สร้างผลงานและสะสมประสบการณ์ในเทคโนโลยีต่างๆมาอย่างมากมาย ทำให้ AIT เจริญเติบโต อย่างมั่นคงมาถึงทุกวันนี้ เราได้รับงานโครงการสร้างระบบคอมพิวเตอร์ (Hardware/Software) ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Network) ระบบ Internet และระบบ Data Center ซึ่งถือว่าเป็นโครงสร้างพื้นฐานของระบบสารสนเทศและการสื่อสาร

ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา AIT ได้รับงานโครงการสร้าง Application บนโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าว เพื่อใช้ในการทำงานด้านต่างๆ ขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ระบบการจองและออกตั๋วรถไฟและรถขนส่ง และระบบ Clouds บน Data Center นอกจากนั้น AIT ยังได้รับงานโครงการ Big Data Analytics ในหลายโครงการ ซึ่งถือว่าเป็นความสำเร็จของเราในการขยายธุรกิจไปสู่เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เป็นที่ต้องการของตลาดปัจจุบันและอนาคต

นอกจากนี้ บริษัทได้ดำเนินการขายหุ้นบริษัท เจเนซิส ดาต้า เซ็นเตอร์ จำกัด (Genesis Data Center) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง 3 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อดำเนินโครงการดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่ง AIT ถือหุ้น 1 ใน 3 ของหุ้นทั้งหมด โดย AIT ได้ขายหุ้นในสัดส่วน 33.33% ให้กับ ETIX Everywhere (ETIX) ในราคา 182 ล้านบาท (รวมคืนเงินกู้ยืมจากผู้ถือหุ้น) บริษัทคาดว่าจะรับรู้รายได้หลังหักต้นทุนและค่าใช้จ่ายเข้ามาในไตรมาส 1/65 ซึ่งทำให้บริษัทจะนำเงินดังกล่าวไปแสวงหาโอกาสลงทุนพัฒนาโครงการ ใหม่ๆ หรือมองหาโอกาสทางธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัทฯ ต่อไป