͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: โอสถสภานำศักยภาพความแข็งแกร่งของเครือข่าย  (อ่าน 57 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Chigaru

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13687
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
โอสถสภานำศักยภาพความแข็งแกร่งของเครือข่ายช่องทางการจำหน่าย เสริมทัพโคอิเคยะ ช่วยกระจายสินค้าให้ครอบคลุม ชิงส่วนแบ่งการตลาดขนมขบเคี้ยวในไทย

บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) นำศักยภาพความแข็งแกร่งของเครือข่ายช่องทางการจำหน่ายเสริมทัพบริษัท โคอิเคยะ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำตลาดขนมขบเคี้ยวจากญี่ปุ่น รุกตลาดไทย ช่วยกระจายสินค้าสู่ร้านค้าปลีกดั้งเดิมและแม็คโคร กว่า 400,000 แห่งทั่วประเทศ ชิงส่วนแบ่งการตลาดขนมขบเคี้ยวในไทย

นายสรายุทธ จิตจรุงพร รองกรรมการผู้จัดการสายการขาย-ประเทศไทย บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP เปิดเผยว่า บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศไทย ได้รับการแต่งตั้งจากบริษัท โคอิเคยะ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยวจากประเทศญี่ปุ่น ให้เป็นผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์คารามูโจ้ และสคอร์น ดูแลการจัดจำหน่ายผ่านเครือข่ายร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม (traditional trade) และแม็คโคร โดยเริ่มมีผลตั้งแต่เมื่อต้นเดือนมกราคม ที่ผ่านมา

บริษัท โคอิเคยะ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทในเครือโคอิเคยะ ผู้เปิดตลาดขนมมันฝรั่งทอดกรอบในประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันมีสินค้าวางจำหน่ายในประเทศไทย ทั้งหมดสามแบรนด์ ได้แก่ คารามูโจ้ สคอร์น และสตรอง โดยทั้งสามแบรนด์เป็นขนมขบเคี้ยวยอดนิยมจากประเทศญี่ปุ่น ผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพที่คัดสรรอย่างพิถีพิถัน มีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน ปรุงรสด้วยสูตรเฉพาะตัว มีจุดเด่นที่รสชาติเผ็ดและเข้มข้น เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภค จนทำให้มีการพัฒนาสินค้ารูปแบบและรสชาติให้เลือกมากมายและเป็นที่นิยมในประเทศต่างๆ ทั่วโลก

"บริษัทฯ มองเห็นโอกาสในการสร้างการเติบโตในประเทศไทยได้อีกมาก และเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของเครือข่ายช่องทางการจำหน่ายของโอสถสภาซึ่งจะช่วยให้กระจายสินค้าได้ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในทุกช่องทางมากยิ่งขึ้น และช่วยผลักดันให้บริษัทฯ สามารถบรรลุเป้าหมาย ก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาดขนมขบเคี้ยวในประเทศไทย" นายโคมิเนะ สึโยชิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โคอิเคยะ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

ด้วยเครือข่ายร้านค้าที่แข็งแกร่งทั่วประเทศ ประสบการณ์ และองค์ความรู้จากการทำงานร่วมกับพันธมิตรจากประเทศญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน ประกอบกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์จากประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นที่ยอมรับและชื่นชอบของผู้บริโภค ทำให้โอสถสภาและโคอิเคยะ มั่นใจว่าการจับมือทางธุรกิจในครั้งนี้จะช่วยสร้างการเติบโตได้เป็นอย่างดี โดยตั้งเป้าหมายการเติบโตที่ร้อยละ 30

"การจับมือกับโคอิเคยะนั้น สอดคล้องกับแผนรุกขยายธุรกิจผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ๆ และนำศักยภาพและความเชี่ยวชาญด้านการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งมาต่อยอดให้แก่ธุรกิจ โดยผลักดันสินค้าของพันธมิตรเข้าไปยังกลุ่มผู้บริโภคผ่านเครือข่ายร้านค้ากว่า 400,000 จุดทั่วประเทศ ของโอสถสภา รวมถึงหน่วยรถจำหน่ายสินค้า และห้างค้าปลีกท้องถิ่น นอกจากนี้ ยังเป็นการก้าวเข้าสู่ตลาดขนมขบเคี้ยวเป็นครั้งแรกของโอสถสภาอีกด้วย" นายสรายุทธกล่าว