ภาวะ
ตลาดอนุพันธ์: ปรับฐานตามตลาดตปท.-ผู้ติดเชื้อโควิดเร่งตัวขึ้น จับตาประชุมศบค.ชุดใหญ่พรุ่งนี้
นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า การซื้อขาย SET50 Index Futures วันนี้ S50H22 ปรับฐานอ่อนตัวลง รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นนิคเคอิ, ตลาดหุ้น เซี่ยงไฮ้ของจีน จากการคุมเข้มนโยบายการเงินของสหรัฐ ประกอบกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศ ที่มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นใน ระดับเท่าตัว และกระทรวงสาธารณสุขก็มีการเพิ่มระดับการเตือนภัยโควิด-19 เป็นระดับ 4 ทำให้นักลงทุนลดการถือครองหุ้น หรือขายหุ้นออก มาก่อน เพื่อลดความเสี่ยงต่อแนวโน้มที่อาจจะมีมาตรการการคุมเข้ม หรือการเว้นระยะห่างทางสังคมของภาครัฐที่เข้มงวดมากขึ้น
ทั้งนี้นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ชุดใหญ่ ในวันพรุ่งนี้ (7 ม.ค.65) ว่า จะมีมาตรการที่สอดคล้องหรือตอบรับกับการยกระดับการเตือนภัยฯ เป็นระดับ 4 หรือไม่ เนื่องด้วยการยกระดับการเตือนดังกล่าว หรือปิดสถาน ที่เสี่ยง ก็อาจมีมาตรการห้ามทานอาหารตามร้านอาหารต่างๆ เป็นต้น รวมถึงต้องจับตาดูการจัดโซนพื้นที่เป็นสีต่างๆ ในส่วนของการงดดื่มสรุ และการจำหน่ายสุรา และการใช้บริการในสถานที่เสี่ยง ตลอดจนการรับบขนส่งข้ามพื้นที่ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวยังเป็นปัจจัยกดดันดัชนี
นอกจากนี้ยังเห็นการที่หอการค้าไทย ออกมาแสดงความวิตกกังวล และแสดงการคัดค้านการล็อกดาวน์ เพื่อคุม โควิด-19 อีกรอบ เพราะห่วงว่าจะกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ
แนวโน้มวันพรุ่งนี้ มองว่ายังต้องรอดูการประชุมศบค.ว่าจะมีมาตรการออกมาเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ หรือไม่ หรือหนักกว่า เบากว่า ซึ่งจะส่งผลต่อความเคลื่อนไหวของดัชนีได้ แต่อย่างไรก็ตามในระยะสั้น เห็นดาวน์โจนส์ ฟิวเจอร์ ที่กลับมาเคลื่อนไหวในแดนบวก และราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้น
ดังนั้น ในวันพรุ่งนี้น่าจะมีโอกาสรีบาวด์ แต่การขยับขึ้นยังเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากยังมีปัจจัยที่ยังคงกดดันอยู่ ดังกล่าวข้าง ต้น ให้แนวต้านไว้ที่ 982-985 จุด ถ้าไม่ผ่าน คนที่มีสถานะซื้อให้ขายออกมาก่อน และให้แนวรับที่ 973-966 จุด ถ้าดัชนีย่อ ตัวลงมาบริเวณดังกล่าว คนที่มีสถานะขายให้ทยอยปิดสถานะขายออกไป
ส่วนราคาทองคำวันนี้ ยังได้รับแรงกดดันจากเฟดคุมเข้มนโยบายการเงิน ทำให้มีแรงขายสลับกลับลงมา กดดันให้ ราคาทองคำมีสัญญาณของการปรับฐานอ่อนตัวลง ขณะที่ระหว่างวันการดีดตัวขึ้นของราคาทองคำก็เป็นไปอย่างจำกัด ทั้งนี้มองว่าแนวโน้มของราคาทองคำมีโอกาสอ่อนตัวหรือซึมตัวลงได้ ให้แนวต้าน 1,805-1,811 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1,831 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,767-1,783 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ แนะนำว่าถ้ายัง ไม่ผ่าน แนวต้านแรก คนที่มีสถานะซื้อ หรือถือ ให้แบ่งทองคำออกขาย เพื่อลดความเสี่ยงออกไปก่อน และเล่นสั้นรอซื้อ คืนหากราคาอ่อนตัวลงไม่หลุดกรอบแนวรับด้านล่าง
อย่างไรก็ตามให้ติดตามการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร อัตราการว่างงาน และรายได้เฉลี่ย ต่อชั่วโมง ในวันพรุ่งนี้ (7 ม.ค.65) ซึ่งถือว่าตัวเลขแรงงานชุดสุดท้ายก่อนประชุมเฟด ในปลายเดือนม.ค.นี้ ก็อาจจะใช้ ตัวเลขดังกล่าวเป็นปัจจัยชี้นำราคาทองคำเพิ่มเติม
ดัชนี SET50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 983.71 จุด ลดลง 18.90 จุด, -1.89%
ปริมาณ สถานะคงค้าง
Total Market 725,293 4,038,848
Total Futures 711,707 3,982,261
SET50 Index 269,113 384,228
Sector Index - -
Single Stock 344,617 3,408,583
Precious Metal 63,440 58,909
- GF10 7,294 16,156
- GF50 218 603
- Gold Online 55,458 40,232
- Silver Online 470 1,918
Deferred Precious Metal 8 5
- GOLD-D 8 5
Currency 34,445 130,387
Interest Rate - -
Agriculture 84 149
- Japanese Rubber 84 149
- RSS3D - -
- RSS3 - -
Total Options 13,586 56,587
Call 4,284 22,506
Put 9,302 34,081
สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน
นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนภายในประเทศ
Futures -16,793 -87,316 +104,109
Options +791 +3,189 -3,980