ไทยเร่งตาม
กลุ่มเสี่ยงโอไมครอน 252 ราย เข้ามาตรวจและกักตัว หลังเริ่มระบาดในหลายประเทศ ชี้ มีการติดเชื้อซ้ำสูงขึ้น และเร็วกว่าเดิม
วันที่ 1 ธันวาคม 2564 เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. เปิดเผยว่า ที่ประชุมอีโอซีกระทรวงสาธารณสุข ให้กรมควบคุมโรครายงานข้อมูลของโควิดกลายพันธุ์โอไมครอน พบว่า อาการผู้ติดเชื้อไม่ต่างจากสายพันธุ์อื่น แต่มีเรื่องอ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเข้ามา ไม่สูญเสียการรับรสและกลิ่น อาการป่วยไม่รุนแรง และมีรายงานการเสียชีวิตแล้ว ส่วนอัตราการแพร่เชื้อ สายพันธุ์เดลตาแพร่เชื้อเร็วกว่าอัลฟา 60% แต่ทางแอฟริกาใต้ระบุว่า โอไมครอนน่าจะเร็วกว่าเดิม มีอัตราการติดเชื้อซ้ำสูงขึ้น และอาจหลบภูมิคุ้มกันได้อย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่ยังไม่มีข้อมูล ต้องรอการวิจัยเรื่องการติดเชื้อทวีคูณ ความรุนแรง ระยะฟักตัวของเชื้อ แต่ทางผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า วัคซีนยังสามารถป้องกันอาการรุนแรงได้ และขอเน้นย้ำเรื่องการฉีดวัคซีนด้วย
ส่วนประเทศไทยตอนนี้ มีข้อมูลผู้เดินทางจาก 8 ประเทศเสี่ยง เข้าไทยตั้งแต่วันที่ 15-27 พฤศจิกายน 2564 จำนวน 255 ราย ออกประเทศไทยไปแล้ว 3 ราย เหลือ 252 ราย ตอนนี้ติดตามตัวมาได้แล้ว 11 ราย ซึ่งที่ประชุมอีโอซี ได้เน้นยำให้คนเหล่านี้มาตรวจ RT-PCT ในโรงพยาบาลรัฐฟรี โดยรายชื่อประเทศกลุ่มเสี่ยง ได้แก่
1. สาธารณรัฐบอตสวานา
2. ราชอาณาจักรเอสวาตินี
3. ราชอาณาจักรเลโซโท
4. สาธารณรัฐมาลาวี
5. สาธารณรัฐโมซัมบิก
6. สาธารณรัฐนามิเบีย
7. สาธารณรัฐแอฟริกาใต้
8. สาธารณรัฐซิมบับเว
ขณะเดียวกัน ตอนนี้รัฐบาลกำลังใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ มาตรา 34 ให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อมีอำนาจในการออกคำสั่งผู้ที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคติดต่อ หรือเป็นผู้สัมผัสโรคหรือเป็นพาหะ มารับการตรวจหรือการรักษา หรือรับการชันสูตรทางการแพทย์ และเพื่อความปลอดภัย อาจดำเนินการกักตัว ณ สถานที่ที่เจ้าพนักงานกำหนดจนกว่าจะพ้นระยะการติดต่อของโรค หากฝ่าฝืนระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท