กองทุนบัวหลวง ขาย IPO 3 กองทุนประหยัดภาษี "B-USALPHASSF,B-USALPHARMF,B-VIETNAMRMF" 23-30 พ.ย.
เอาใจสายลงทุนที่มองหาโอกาสการเติบโตได้ยาวๆกับหุ้นสหรัฐอเมริกาและหุ้นเวียดนาม ตลาดดาวรุ่งที่จ่อคิวยกระดับเป็นตลาดเกิดใหม่ เติมเต็มพอร์ตลงทุนเพื่อการเติบโตระยะยาว
นายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) บัวหลวง จำกัดหรือ กองทุนบัวหลวงเปิดเผยว่า ปัจจุบันนักลงทุนมีความสนใจลงทุนระยะยาวผ่านกองทุนประหยัดภาษี ในกองทุนหุ้นต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากต้องการกระจายความเสี่ยงลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย พร้อมๆ กับเพิ่มโอกาสการเติบโตให้พอร์ตลงทุนได้มากยิ่งขึ้น
นายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ บลจ. บัวหลวง จำกัด
นายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ บลจ. บัวหลวง จำกัด
ล่าสุดกองทุนบัวหลวงก็เตรียมเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก(IPO) 3 กองทุนใหม่ มาเป็นทางเลือกให้ผู้ลงทุนได้เติมเต็มโอกาสการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ที่มีมูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ใหญ่ที่สุดในโลก และประเทศดาวรุ่งมีโอกาสเติบโตอย่างเวียดนาม โดยจะเสนอขาย IPO ระหว่างวันที่ 23-30 พฤศจิกายน 2564
ประกอบด้วย กองทุนเปิดบัวหลวงยูเอสอัลฟ่าเพื่อการออม (B-USALPHASSF) กองทุนเปิดบัวหลวงยูเอสอัลฟ่าเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-USALPHARMF) และกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเวียดนามเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-VIETNAMRMF)
ทั้งนี้สหรัฐฯเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และตลาดหุ้นก็มีมาร์เก็ตแคปมากที่สุดในโลกเช่นกัน ในช่วงเวลานี้เศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังฟื้นตัวได้ดี ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯก็มีหุ้นที่สอดคล้องกับเมกะเทรนด์ในอนาคตให้เลือกมากมาย ซึ่งหุ้นเหล่านี้ไม่ได้ดำเนินธุรกิจแค่ในสหรัฐฯอย่างเดียว แต่ยังมีโอกาสทำรายได้จากทั่วโลกด้วย
"หากนักลงทุนมีการจัดสรรเงินส่วนหนึ่งลงทุนในสหรัฐฯ ในพอร์ตลงทุนระยะยาว ก็จะทำให้ไม่พลาดโอกาสการเติบโตดีๆไป โดย B-USALPHASSF และ B-USALPHARMF ก็จะมาตอบโจทย์การเติมเต็มโอกาสดีๆนี้ได้"นายวศินกล่าว
ส่วนเวียดนาม ถือเป็นเศรษฐกิจดาวรุ่งในอาเซียนที่กำลังเติบโตได้ดี จากการที่ประเทศที่ประชากรวัยแรงงานอยู่มาก เป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนประเทศให้เติบโต ทั้งยังเป็นฐานการผลิตสำคัญที่บริษัททั่วโลกใช้ในการผลิตสินค้า นอกจากนี้มูลค่าหุ้นเวียดนามก็ยังไม่แพงเกินไป โดยเฉพาะหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่มีดาวรุ่งรอให้ผู้จัดการกองทุนค้นหาอีกมากและตลาดหุ้นเวียดนามก็กำลังรอวันปรับสถานะจากตลาดหุ้นชายขอบ(Frontier Market)ไปสู่การเป็นตลาดหุ้นเกิดใหม่(Emerging Market)ซึ่งเมื่อถึงวันนั้นจะยิ่งทำให้เวียดนามโดดเด่นในสายตานักลงทุนทั่วโลกมากขึ้นไปอีก
ดังนั้น B-VIETNAMRMF จึงเป็นอีกกองทุนดีๆ ที่ช่วยให้นักลงทุนมีโอกาสเติบโตเต็มที่ไปพร้อมอนาคตดีๆ ของเวียดนามได้ ส่วนของ B-USALPHASSF ลงทุนผ่านกองทุน B-USALPHA ซึ่งลงทุนในกองทุนหลัก JPMorgan Funds–US Growth Fund มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 4 ครั้ง เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนเพื่อเป้าหมายทางการเงินในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยได้เก็บเกี่ยวผลตอบแทนระหว่างทางไปด้วย
ส่วน B-USALPHARMFลงทุนผ่านกองทุนหลัก JPMorgan Funds – US Growth Fund ขณะที่ B-VIETNAMRMF ผู้จัดการกองทุนบัวหลวง ลงทุนตรงในหุ้นเวียดนาม รวมถึงลงทุนผ่านหน่วยลงทุน ETF ซึ่งทั้ง 2 กองทุนนี้ เป็นกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) จึงไม่มีการจ่ายเงินปันผล เหมาะกับผู้ที่พร้อมลงทุนต่อเนื่องทุกปี เพื่อเป้าหมายมีเงินใช้สุขสบายหลังวัยเกษียณ
“การใส่เงินลงทุนอย่างต่อเนื่อง ด้วยระยะเวลาที่ยาวเพียงพอ มีส่วนสำคัญที่ทำให้เงินลงทุนเติบโต แต่อีกส่วนที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ การเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดีระยะยาว ซึ่งทั้ง 3 กองทุนน้องใหม่นี้ ไม่ว่าจะเป็น B-USALPHASSF,B-USALPHARMFหรือ B-VIETNAMRMF ก็เป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีโอกาสเติบโตที่น่าสนใจ”นายวศินกล่าว