͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: รพ.สนามธรรมศาสตร์ยุตินำเข้าวัคซีน 'โมเดอร์นา' ล็อตบริจาคจากโปแลนด์แล้ว  (อ่าน 94 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ deam205

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15570
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด

รพ.สนามธรรมศาสตร์แจงยุติการนำเข้าวัคซีน ‘โมเดอร์นา’ ล็อตบริจาคจากโปแลนด์ลงแล้วเมื่อวันที่ 31 ต.ค.โดยไม่มีการส่งมอบวัคซีนใดๆ ตามที่ประสานงานไว้

เมื่อวันที่ 2 พ.ย.64 โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในโรงพยาบาล พร้อมความคืบหน้าความพยายามจัดหาวัคซีนทางเลือกทั้ง mRNA และวัคซีน Protein Based ระบุว่า วันจันทร์ที่ 1 พ.ย.64 วันที่ 148 ของศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์รังสิต และวันที่ 129 ของศูนย์ธรรมศาสตร์ Home Isolation วันนี้ผู้ป่วยโควิดรายใหม่ทั่วประเทศอยู่ที่ 8,165 คน และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 55 คน ยอดผู้ป่วยใหม่เฉลี่ยในรอบเจ็ดวันที่ผ่านมาอยู่ที่ 8,719 คนต่อวัน ต่ำลงแต่ก็ยังสูงอยู่


โดยเฉพาะที่ต้องทดไว้ในใจว่าจำนวนที่ประกาศนี้ยังไม่ได้รวมผู้ป่วยผลบวกจากการตรวจ ATK อีกวันละสามพันกว่าคนด้วยนะ ดังนั้น การคลายล็อกดาวน์อย่างมีนัยสำคัญในวันนี้ ทั้งยกเลิกเคอร์ฟิว เปิดให้บริการกิจการต่างๆ และอนุญาตให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ใน กทม.และอีกหลายจังหวัดนั้น

ขอได้โปรดระลึกว่าเป็นไปภายใต้เหตุผลความจำเป็นในทางเศรษฐกิจ และสังคม มากกว่าเหตุผลคำอธิบายทางการแพทย์และสาธารณสุข และทุกๆ คนต้องระลึกเสมอว่า เชื้อ Delta และที่กลายพันธ์ไปแล้วบ้างนี้ ยังคงวนเวียนอยู่รอบๆ ตัวเรา และพร้อมที่จะเข้าโจมตีทุกๆ คนได้ตลอดเวลาและในทุกสถานการณ์ด้วยนะ



สถานการณ์ในโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไปจากสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวนผู้ป่วยโควิดในโรงพยาบาลธรรมศาสตร์วันนี้อยู่ที่ 39 ราย จากจำนวนเตียงโควิด 116 เตียงที่พวกเราเตรียมไว้ ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยวิกฤตสีแดงจำนวนเพียง 4 รายเท่านั้น เช้าวันนี้มีผู้ป่วยใหม่จากผลตรวจ RT-PCR เพิ่มเข้ามาใหม่เพียง 3 รายจากการ Swab 128 คน และยังเป็นจำนวนที่ต่ำอยู่ ตัวเลขผลบวกจาก RT-PCR ทั้งสัปดาห์มีโดยเฉลี่ยไม่เกินวันละสิบคนเท่านั้น

สถานการณ์ที่นี่ที่ยืนระยะมาแบบนี้ราวสองสามสัปดาห์แล้ว บอกกับเราว่าสถานการณ์โควิดใน กทม.และปริมณฑลยังเป็น “ขาลง” เหมือนเดิม แต่อีกด้านหนึ่ง ตัวเลขก็ฟ้องว่าเราได้ลงต่ำจนถึงจุดที่สุด และกดให้ลงต่ำกว่านี้อีกไม่ได้แล้วนะ เพราะตัวเลขผู้ป่วยใหม่รายวันก็คงจะต้องค่อยๆ เพิ่มขึ้นโดยสัมพันธ์กับการคลายล็อกที่เพิ่งเริ่มในวันนี้แล้ว ประสบการณ์จากทุกประเทศสอนพวกเรามาตามนี้แหละ

ตัวเลขผู้มารับวัคซีนที่ศูนย์รับวัคซีนที่ยิม 4 ของเราในระยะนี้ ยังคงอยู่ที่สัดส่วนมากกว่า 90% ของคิวที่นัดไว้ และเป็นจำนวนประมาณวันละสองพันคน เพราะทั้งหมดเป็นคิวที่จองรับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็มที่สอง ซึ่งจะมีผู้ขาดนัดไม่มาฉีดไม่มากนัก พวกเราวางแผนกันว่าคิวเข็มที่สองทั้งหมดที่จองแอสตร้าฯไว้กับเราจะจบลงในช่วงประมาณ 23-24 ธันวาคม และเริ่มมีจำนวนที่ลดลงเรื่อยๆ ตามจำนวนเข็มแรกที่เราได้วัคซีนมาน้อยในช่วง 2-3 เดือนก่อน

ดังนั้น เราจึงจะเปิดศูนย์รับวัคซีนที่ยิม 4 ต่อไปอีก จนถึงวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ย. เท่านั้น หลังจากวันดังกล่าวเราจะขอให้ผู้มีคิวนัดแอสตร้าฯเข็มที่สองทั้งหมด มารับวัคซีนเข็มสองที่ รพ.ธรรมศาสตร์แล้ว

ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถนำกำลังบุคลากรทั้งหมดในศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์กลับไปช่วยปฏิบัติงานดูแลผู้ป่วยที่โรงพยาบาลหลักได้อย่างมีประสิทธิภาพ และขอใช้โอกาสนี้แจ้งด้วยว่า ตั้งแต่วันนี้จนไปถึงวันที่ 14 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่จะให้บริการวัคซีนที่ยิม 4 เราได้รับวัคซีนแอสตร้า มาเพียงพอรองรับจำนวนคิวที่ลงทะเบียนไว้อย่างแน่นอนแล้ว


วันนี้ขึ้นต้นเดือนใหม่หลังตุลาคมแล้ว จึงขออนุญาตรายงานความคืบหน้าในเรื่องการพยายามจัดหาวัคซีนทางเลือกตามข้อบังคับของสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาไว้ ดังที่ได้เคยเล่าไว้แล้วในบางคราว โดยจะขอสรุปความคืบหน้าของความพยายามจัดหาวัคซีนทางเลือกทั้งที่เป็น mRNA และวัคซีน Protein Based มาให้แก่ประชาชนทั้งหลายในประเทศไทย อีกแรงหนึ่งและอีกทางหนึ่ง นอกเหนือจากที่รัฐบาลทำอยู่โดยผ่านกระทรวงสาธารณสุขที่พวกเราที่ธรรมศาสตร์ได้พยายามทำกันมาตลอดเกือบสามเดือนมาแล้วเพื่อทราบ ดังต่อไปนี้



1.ธรรมศาสตร์ได้ทำ MOU กับเอกชนหลายกลุ่มในการจัดหาวัคซีนทั้งที่เป็น Moderna Pfizer และวัคซีน Protein Based กับเอกชนหลายรายที่จะนำวัคซีนเหล่านี้เข้ามาในประเทศ ในนามของธรรมศาสตร์ โดยค่าใช้จ่าย ค่าขนส่ง และค่าประกันภัยของเอกชนเอง โดยที่ธรรมศาสตร์จะขอรับบริจาควัคซีนในสัดส่วนไม่เกิน 10% มาให้บริการฟรีแก่ประชาชนผู้มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ นอกเหนือจากนั้น ให้เอกชนเหล่านี้สามารถนำไปให้บริการโดยคิดค่าใช้จ่ายแก่ผู้ประสงค์จะรับวัคซีนได้

ในขณะนี้ได้มีการลงนามใน MOU ไปแล้วรวมทั้งสิ้น 5 ฉบับ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการของภาคเอกชนหลายราย ที่มีความตกลงกับเรา โดยขณะนี้มีเอกชนรวม 2 ราย ที่แจ้งกับเราว่าจะสามารถนำวัคซีน Moderna ที่ได้ประสานงานสั่งซื้อจากผู้ผลิต ทั้งในสเปนและสหรัฐอเมริการายละประมาณ 2-3 ล้านโดส เข้าใช้ในประเทศได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้

2.ในส่วนการประสานงานขอรับบริจาควัคซีน Moderna ซึ่งยังมีอายุใช้งานได้ถึงเดือนเม.ย.65 จำนวน 1.5 ล้านโดส จากประเทศในยุโรปตะวันออกนั้น ผู้แทนที่ มธ.มอบหมายได้ติดต่อประสานกันกับสำนักงานสำรองทางยุทธศาสตร์ของโปแลนด์ ซึ่งได้แสดงความจำนงเป็นลายลักษณ์อักษรในนามของหน่วยงานมายังธรรมศาสตร์โดยตรง เพื่อที่จะบริจาควัคซีนดังกล่าวให้ธรรมศาสตร์

โดยฝ่ายไทยต้องเป็นผู้รับผิดชอบตรวจสอบวัคซีน จัดหาผู้ขนส่ง ประกันภัยการขนส่ง และค่าใช้จ่ายในเรื่องโลจิสติกส์จากคลังเก็บวัคซีนไปยังสนามบินและค่าขนส่งมายังกรุงเทพฯ ตลอดทั้งค่าประกันภัยความรับผิดในเรื่องผลข้างเคียงของวัคซีนที่อาจเกิดขึ้นเอง โดยได้มีการติดต่อประสานงานเป็นการภายในกับสถานทูตไทยในวอร์ซอร์ให้ทราบเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น

3.ภาคเอกชนผู้แทนธรรมศาสตร์ได้ติดต่อประสานงานในเรื่องการได้รับการอนุญาตจากบริษัทผู้ผลิตวัคซีน การติดต่อเรื่องการจัดส่งวัคซีนทั้งในประเทศโปแลนด์ และการขนส่งทางอากาศมายังประเทศไทย การติดต่อผู้รับผิดชอบดูแลเก็บรักษาและจัดส่งวัคซีนในประเทศ ตลอดทั้งการจัดจ้างผู้ตรวจสอบวัคซีนไปตรวจรับรองวัคซีนที่โปแลนด์ ตลอดถึงการประกันภัยผลข้างเคียงของวัคซีนในประเทศไว้เรียบร้อยแล้ว และในเบื้องต้นได้ติดต่อจองเครื่องบินกับสายการบินระหว่างประเทศ โดยได้กำหนดวันขนส่งออกจากสนามบินในโปแลนด์ไว้ในวันที่ 28 ตุลาคม

4.ธรรมศาสตร์ได้รับการประสานจากหน่วยงานผู้บริจาคว่า ฝ่ายผู้บริจาคประสงค์จะให้รัฐบาลไทย โดยหน่วยงานภาครัฐที่มีสถานะเป็นผู้แทนรัฐบาลแจ้งแสดงเจตนาจะรับบริจาค Moderna จำนวน 1.5 ล้านโดสดังกล่าวไปยังรัฐบาลโปแลนด์ หรือสถานทูตโปแลนด์ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อยืนยันว่ารัฐบาลไทยยินดีรับบริจาควัคซีนดังกล่าวจากรัฐบาลโปแลนด์

ธรรมศาสตร์จึงได้ทำหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศให้ช่วยประสานการดำเนินการดังกล่าวให้ โดยการออกจดหมายยืนยัน โดยได้แจ้งกับผู้แทนของกระทรวงชัดเจนว่าหน้าที่ในการตรวจรับรองวัคซีนและการดำเนินการขนส่งและประกันภัยจะเป็นความรับผิดชอบดำเนินการของธรรมศาสตร์เอง

5.หลังจากนั้นธรรมศาสตร์ได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากกระทรวงต่างประเทศว่า เมื่อธรรมศาสตร์ซึ่งมีอำนาจดำเนินการได้ตามข้อบังคับที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ได้เป็นผู้เจรจาตกลงกับหน่วยงานของรัฐในโปแลนด์อยู่แล้ว เห็นควรให้ธรรมศาสตร์เป็นผู้ดำเนินการเองต่อไป และเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบรับรองคุณภาพวัคซีน ธรรมศาสตร์ควรจะหารือกับกรมควบคุมโรคของประเทศไทยโดยตรง

6.เมื่อไม่สามารถได้รับจดหมายจากกระทรวงการต่างประเทศเพื่อแจ้งยืนยันการยินดีรับบริจาค ไปยังรัฐบาลโปแลนด์โดยตรง เพื่อรับรองการประสานงานกับธรรมศาสตร์ ซึ่งมีฐานะเป็นเพียงหน่วยงานของรัฐในประเทศไทยภายในวันที่ 31 ต.ค. ธรรมศาสตร์จึงไม่สามารถยืนยันสถานะของตัวเองว่าเป็นตัวแทนในการรับบริจาคในนามของรัฐบาลไทยได้

และเมื่อเป็นเช่นนั้น การเจรจาติดต่อ และการทำความตกลงในเรื่องวัคซีน Moderna ที่จะขอรับบริจาคจากโปแลนด์ในครั้งนี้ จึงจำต้องยุติลง และสำนักงานสำรองทางยุทธศาสตร์ของรัฐบาลโปแลนด์ คงจะดำเนินการเกี่ยวกับวัคซีนที่ Moderna จำนวน 1.5 ล้านโดสนี้ ตามที่เห็นสมควรต่อไป

ขออนุญาตรายงานความคืบหน้าและข้อยุติของการขอรับบริจาควัคซีนจากโปแลนด์ด้วยข้อสรุปสั้นๆ ว่า การติดต่อขอรับบริจาคและการดำเนินการที่เกี่ยวข้องได้สิ้นสุดลงแล้วเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยไม่มีการส่งมอบวัคซีนใดๆ ตามที่ได้มีการประสานงานไว้ และขออภัยผู้คนจำนวนไม่น้อยในประเทศที่รอคอยรับวัคซีนทางเลือกในล็อตนี้อยู่ และคอยให้กำลังใจพวกเรามาโดยตลอด

ขอโทษที่พวกเราทำงานที่สำคัญนี้ไม่สำเร็จในเวลาที่มีจำกัด แต่พวกเราก็จะยังคงไม่ท้อถอย และจะใช้ความพยายามในการหาทางให้มีวัคซีนทางเลือกอื่นๆ ให้มีเข้ามาใช้ได้ในประเทศให้เพียงพอกับความต้องการอย่างเร่งด่วนของผู้คนทั้งหลาย ซึ่งยังคงเผชิญกับสถานการณ์ที่มีวัคซีนไม่เพียงพอต่อความต้องการอยู่ในขณะนี้

พวกเราจะทำงานหนัก และจะพยายามต่อไป ในการช่วยเหลือผู้คนและช่วยเหลือสังคมไทยโดยรวม ตามกำลังและความสามารถที่พวกเรามีอยู่ และจะได้รายงานความก้าวหน้าในเรื่องนี้ตามข้อตกลงอื่นๆ ที่เราได้ทำไว้ ให้ทราบเป็นระยะๆ ในโอกาสอันควรต่อไป