͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: “EXIM BANK” หนุนธุรกิจลงทุนติดตั้ง Solar Rooftop พร้อมขึ้นทะเบียน  (อ่าน 96 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Ailie662

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 14271
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
EXIM BANK สนับสนุนการลงทุนติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา พร้อมขึ้นทะเบียนขายคาร์บอนเครดิตให้ผู้ประกอบการไทย เพื่อผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นเศรษฐกิจปลอดคาร์บอน บรรเทาปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเชื่อมโยงถึงภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม และการค้าระหว่างประเทศ ควบคู่กับการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยให้ก้าวทันกระแสเศรษฐกิจสีเขียวเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) พร้อมด้วยนายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (TGO) นางรสยา เธียรวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่พัฒนาธุรกิจ บริษัท โกล. เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (GPSC) นายศิริเมธ ลี้ภากรณ์ กรรมการ บริษัท ผลิตไฟฟ้าและพลังงานร่วม จำกัด (CHPP) ในกลุ่มบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และนายอาทิตย์ เวชกิจ ประธานกรรมการ บริษัท นีโอ คลีน เอนเนอร์ยี่ จำกัด ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการ Solar Orchestra เพื่อสนับสนุนการลงทุนติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) และการขึ้นทะเบียนคาร์บอนเครดิตแบบครบวงจรให้กับผู้ประกอบการไทย เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินธุรกิจสู่ชั้นบรรยากาศโลก บรรเทาปัญหาภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศไทยและของโลก ผ่านระบบการประชุมออนไลน์เมื่อเร็วๆนี้

กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า วิกฤตสภาพภูมิอากาศเป็นหนึ่งในปัญหาที่เร่งด่วนที่สุด เพราะอาจส่งผลกระทบต่อการหยุดชะงักของ Supply Chain ของธุรกิจ ตลอดจนความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทุกองค์กรจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กรตามกรอบการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Environment, Social and Governance Framework : ESG) ในขณะที่ประชาคมโลกพยายามร่วมมือกันลดปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งอาจทำให้ต้นทุนทางธุรกิจสูงขึ้น จนทำให้รัฐบาลของประเทศพัฒนาแล้วมีการเชื่อมโยงการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมกับการค้าระหว่างประเทศ อาทิ การเรียกเก็บภาษีนำเข้าตามการปล่อยคาร์บอน การกำหนดให้ประเทศผู้ส่งออกต้องซื้อคาร์บอนเครดิตเพื่อชดเชยความต้องการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิต เป็นต้น



ดร.รักษ์ กล่าวอีกว่า EXIM BANK มีเป้าหมายสู่การเป็น “ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย” โดยดำเนินธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดีและความรับผิดชอบต่อสังคม ตลอดจนนโยบายด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งรวมถึงการบริหารจัดการการเงินอย่างมีความรับผิดชอบ เล็งเห็นความสำคัญของการขยายความร่วมมือกับลูกค้าที่มีศักยภาพด้านธุรกิจพลังงาน ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยใช้พลังงานสะอาด โดยครั้งนี้ EXIM BANK ออกแบบสินเชื่อเพื่อลงทุนติดตั้ง Solar Rooftop พร้อมขึ้นทะเบียนคาร์บอนเครดิตแบบครบวงจร เพื่อให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะใน Supply Chain การส่งออก สามารถปรับตัวและเปลี่ยนข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานให้เป็นจุดเปลี่ยนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของภาคธุรกิจไทย สอดรับกับเป้าหมายของประเทศไทยที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตามความตกลงปารีส (Paris Agreement)

“EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ได้ริเริ่มออกแบบและให้บริการทางการเงินเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการไทยก้าวข้ามข้อจำกัดด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลกและการส่งออกของไทยในเวทีการค้าโลก เป็นผลจากการดำเนินมาตรการลดคาร์บอนที่เข้มข้นขึ้นในทุกภาคส่วนของโลกกลายเป็นโจทย์ใหม่ที่ผู้ประกอบการต้องเตรียมรับมือ โดยเฉพาะผู้ส่งออกไทย ต้องเร่งปรับตัวและพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน EXIM BANK จึงร่วมมือกับพันธมิตรจากภาครัฐและเอกชนสร้าง Symphony of Energy เป็นวัคซีนฉีดให้ผู้ส่งออกไทยมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกที่ถนนทุกสายมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคตอันใกล้ ทันต่อสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาและยากจะควบคุมได้ ทุกภาคส่วนขับเคลื่อนการเติบโตและการพัฒนาประเทศบนรากฐานที่แข็งแกร่งและยั่งยืน ด้วยความร่วมมือที่สอดประสานกันอย่างมีพลัง”