͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: ตลาดไอพีโอคึกคัก 3 หุ้นน้องใหม่ จ่อเทรดปลายเดือนนี้  (อ่าน 87 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Jessicas

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 18534
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
3 หุ้นน้องใหม่ไอพีโอ GLORY-DPAINT-TFM เตรียมลงสนามเทรดปลายเดือนนี้ GLORY ประเดิม 25 ต.ค. นี้  หลังยอดจองซื้อ ไอพีโอ 70 ล้านหุ้นหมดเกลี้ยง  มั่นใจหลังระดมทุน เล็งต่อยอดธุรกิจพัฒนาแพลตฟอร์มรองรับการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ส่วน DPAINT  เคาะราคาขาย  53.25 ล้านหุ้น หุ้นละ 7.50 บาท  พร้อมเทรด mai 28 ต.ค. เชื่อผลการดำเนินงานโดดเด่น ขณะที่ TFM กำหนดราคาขายที่ 13.50 บาทต่อหุ้น เสนอขาย 19 - 21 ต.ค.64 นี้ พร้อมวางเป้ายอดขายแตะ 8 พันลบ.ในอีก 5 ปี

GLORY ประเดิมเทรด 25 ต.ค. นำเงินซื้อลิขสิทธิ์วรรณกรรม นิยายและการ์ตูน ตปท.

นายจรัญพัฒณ์ บุญยัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รุ่งเรืองตลอดไป จำกัด (มหาชน) หรือ GLORY เปิดเผยว่า บริษัทฯพร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(mai) ในวันที่ 25 ต.ค.นี้ โดยใช้ชื่อหุ้น “GLORY” ในการซื้อขายหลักทรัพย์ หลังจากที่เปิดจองซื้อหุ้น IPO ระหว่างวันที่ 12 , 14 และ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา ในราคาหุ้นละ 2.80 บาท จำนวนทั้งสิ้น 70 ล้านหุ้น ซึ่งได้กระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มนักลงทุนจำนวนมาก ทำให้บริษัทฯสามารถขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) หมดทั้งจำนวนเสนอขาย สะท้อนศักยภาพธุรกิจและความเชื่อมั่นในฐานะผู้ประกอบการพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่บริการดำเนินธุรกิจเทคโนโลยีดิจิทัลแพลตฟอร์มและเป็นสื่อกลางการจัดจำหน่ายวรรณกรรมแปลลิขสิทธิ์ต่างประเทศ นิยาย การ์ตูน และหนังสือ ออนไลน์ ผ่านช่องทาง “ Kawebook ” แพลตฟอร์ม เพื่อรองรับการขยายตัวของวงการหนังสือในตลาดอีคอมเมิร์ช

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนหลังหักค่าใช้จ่ายในครั้งนี้จำนวน 189 ล้านบาท บริษัทเตรียมนำไปซื้อลิขสิทธิ์วรรณกรรม นิยายและการ์ตูนจากต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มความหลากหลายของวรรณกรรมให้ตอบสนองความต้องการของฐานลูกค้าให้ได้ครบทุกกลุ่มเป้าหมาย พัฒนาแพลตฟอร์ม Kawebook เพื่อขยายการเติบโตของฐานลูกค้าในกลุ่มเป้าหมายผู้หญิง รวมไปถึงพัฒนาแพลตฟอร์มให้รองรับการใช้งานภาษาต่างประเทศ เพื่อขยายธุรกิจไปสู่ตลาดต่างประเทศ

ทั้งนี้หากพิจารณาจากอัตราการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ในช่วงปี 61 – ปี 63 เทียบเป็นจำนวน 42.52 ล้านบาท 73.43 ล้านบาท และ 78.24 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 35.81% ในขณะที่รายได้จากการจำหน่ายและบริการช่วง 6 เดือนแรกปี 2564 อยู่ที่ 45.43 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 19.40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสะท้อนผลและให้ความเชื่อมั่นได้ว่า GLORY จะเป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างไม่หยุดยั้งตามภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและนวัตกรรมในอนาคต

อันเดอร์ไรท์ เผย นลท.ให้การตอบรับดี มั่นใจศักยภาพ

นางจารีรัตน์ บุลสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด ในฐานะผู้จัดการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่า การเสนอขายหุ้นของ GLORY ถือว่าได้รับการตอบรับอย่างดีในกลุ่มนักลงทุน เนื่องจากนักลงทุนมั่นใจในศักยภาพและปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจที่มีศักยภาพ ประกอบกับความเชี่ยวชาญในการพัฒนาและการให้บริการด้าน Digital Technology Platforms เพื่อรองรับการขยายตัวของวงการหนังสือในตลาด E-Commerce โดย หุ้น GLORY ได้เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ในหมวดบริการ และในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เชื่อมั่นว่า การระดมทุนของ GLORY ในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทสามารถต่อยอดและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในอนาคตให้มีศักยภาพและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

ด้านนายสัมฤทธิ์ชัย ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่าด้วยจุดเด่น ด้านประสบการณ์และวิสัยทัศน์ ของทีมคณะผู้บริหาร อีกทั้งความเชี่ยวชาญด้านการให้บริการดิจิทัลเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม (Digital Technology Platforms) และพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อรองรับการขยายตัวของวงการหนังสือในตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce)เป็นสิ่งที่การันตีถึงศักยภาพ และความน่าเชื่อถือทางธุรกิจในการเป็นผู้พัฒนาและให้บริการด้านดิจิทัลเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม นั่นทำให้ GLORY เป็นที่ยอมรับในแวดวงของกลุ่มธุรกิจเทคสตาร์ทอัพ (Tech Startup) ตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

DPAINT เคาะราคาไอพีโอ 7.50 บาท/หุ้น  พร้อมเทรด mai 28 ต.ค. 64

นางจารีรัตน์ บุลสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นของบริษัท สีเดลต้า จำกัด (มหาชน) หรือ DPAINT เปิดเผยว่า DPAINT กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 53.25 ล้านหุ้น ที่ราคา 7.50 บาท/หุ้น โดยเปิดให้จองซื้อในวันที่ 19 - 21 ต.ค.นี้ และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 28 ตุลาคม 64 ในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดธุรกิจวัสดุก่อสร้างในชื่อหลักทรัพย์ว่า "DPAINT"

สำหรับราคาหุ้นสามัญที่เสนอขายหุ้นละ 7.50 บาท ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) เท่ากับ 32.80 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลการดำเนินงานในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2563 - 30 มิถุนายน 2564) โดยถือว่ามีส่วนลดพอสมควรจากอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิเฉลี่ยของกลุ่มบริษัทที่ประกอบธุรกิจเหมือนหรือคล้ายคลึงกันทั้งในและต่างประเทศ พร้อมมองว่า DPAINT มีปัจจัยพื้นฐานโดดเด่น เป็นหุ้นกลุ่มผลิตภัณฑ์สีทาอาคารรายที่ 3 ในตลาดทุน ที่โดดเด่นทางด้านนวัตกรรม และผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ เป็นโอกาสในการสร้างรายได้และกำไรที่จะเติบโตต่อเนื่องในอนาคต

DPAINT ได้ลงนามแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย พร้อมด้วยผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด

นำเงิน 373 ล้านบาท ปรับปรุงโรงงาน เครื่องจักร ระบบการผลิต

นายรณฤทธิ์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สีเดลต้า จำกัด (มหาชน) หรือ DPAINT กล่าวว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ จำนวนประมาณ 373.16 ล้านบาท (หลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง) จะนำไปใช้ลงทุนในการปรับปรุงโรงงาน เครื่องจักร และระบบการผลิตที่โรงงานสุวินทวงศ์ จำนวนประมาณ 150 ล้านบาท ระยะเวลาการใช้เงินภายในปี 68 เพื่อเพิ่มความสามารถในการผลิตและบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งนำไปใช้เป็นเงินทุนในการซื้อเครื่องผสมสีจำนวน 440 เครื่อง จำนวนประมาณ 100 ล้านบาท ภายในปี 68 เพื่อขยายจำนวนร้านค้าปลีกและร้านค้าปลีกสมัยใหม่ให้ครอบคลุมทั่วประเทศยิ่งขึ้น และเพิ่มโอกาสในการขยายผลิตภัณฑ์สีกลุ่มที่อัตรากำไรดี นอกจากนี้จะนำเงินไปใช้ลงทุนในการทำระบบ ERP จำนวนประมาณ 10 ล้านบาท และใช้ลงทุนสร้างห้อง LAB จำนวนประมาณ 5 ล้านบาทภายในปี 65,ใช้ชำระคืนเงินกู้ระยะสั้น 25 ล้านบาทภายในปี64 และส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนจำนวน 83.20 ล้านบาท

นางสาวเดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่าความน่าสนใจของ DPAINT คือสถานะความเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสีทาอาคารที่อยู่ในอุตสาหกรรมมายาวนานกว่า 42 ปี ตลอดจนผู้บริหารมีความเชี่ยวชาญและทีมงานมืออาชีพ วางกลยุทธ์การขยายธุรกิจในเชิงรุก ด้วยปัจจัยสนับสนุนภาพรวมของธุรกิจสีที่ยังมีโอกาสการเติบโตในอนาคต เนื่องจากสีคือวัสดุก่อสร้างที่ต้องมีการใช้ซ้ำ จึงมีความต้องการจากตลาด อีกทั้งยังพัฒนาด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 64 เติบโตตามแผน แม้ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 DPAINT มีรายได้จากการขายและบริการ 387.7 ล้านบาท เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน 31.7% กำไรสุทธิ 32.9 ล้านบาท เติบโต 48.2% อัตรากำไรขั้นต้น 43.3% อัตรากำไรสุทธิ 8.5% 

TFM  เตรียมเปิดจอง 19-21 ต.ค.นี้ ราคาขายหุ้นละ 13.50 บ.


X


นายพิเชษฐ สิทธิอํานวย กรรมการผู้อํานวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จํากัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า ราคาไอพีโอ ที่ 13.50 บาทต่อหุ้น เป็นราคาสูงสุดในช่วงราคาที่ใช้ทำ Book building ที่ราคานี้คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) เท่ากับ 21.7 เท่า หากพิจารณาผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง ซึ่งถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม ขณะที่นักลงทุนสถาบันมียอดจองเกิน 6-7 เท่า

โดยเตรียมเปิดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้น IPO ในวันที่ 19 – 21 ตุลาคม 2564 และคาดว่าจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนและซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในเดือนตุลาคมนี้

ทั้งนี้ TFM เสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 109.3 ล้านหุ้น แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน 90 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) จำนวน 19.3 ล้านหุ้น รวมทั้งหมดไม่เกินร้อยละ 21.9 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ขยายธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำในประเทศอินโดนีเซีย ชำระคืนเงินกู้ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในอนาคต

ตั้งเป้ายอดขายในไทยโตปีละ 5-10%  เพิ่มสัดส่วนรายได้ต่างประเทศเป็น 25%  

นายบรรลือศักร โสรัจจกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFM กล่าวว่า ใน 3 ปีข้างหน้า มองการเติบโตของยอดขายในไทยโตปีละ 5-10% ซึ่งถ้าการโตในระดับนี้ บริษัทจึงอยากจะไปโตในต่างประเทศ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องไปลงทุนในอินโดนีเซียและปากีสถาน โดยตั้งเป้ารายได้ในต่างประเทศปี 65-67 เติบโตระดับ 10%,15% และ 25% ในอนาคตจะเติบโตในต่างประเทศเป็นหลัก

ตามแผนคาดหวังสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศใน 3-5 ปีข้างหน้า เพิ่มเป็น 25% จากปัจจุบัน 3% และในอนาคตมากกว่า 5-6 ปีข้างหน้า คาดรายได้ต่างประเทศจะเพิ่มเป็น 50% ของยอดขายทั้งหมด

การเข้าระดมทุนครั้งนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเพื่อรองรับโอกาสทางธุรกิจ เนื่องจากธุรกิจของ TFM ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะตลาดในประเทศไทยเท่านั้น บริษัทฯ ยังได้มีการขยายธุรกิจไปยังประเทศที่อุตสาหกรรมสัตว์น้ำมีศักยภาพในการเติบโตสูง ผ่าน Model ธุรกิจที่เหมาะสมกับแต่ละประเทศ