͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: การเลือกอุปกรณ์กันซึมให้เหมาะสมกับการใช้งานทำโครงสร้างต่างๆ  (อ่าน 90 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ luktan1479

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 16766
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
การเลือกอุปกรณ์กันซึมให้เหมาะสมกับการใช้งาน
องค์ประกอบอาคารแต่ละหลังประกอบไปด้วยหลายหลากองค์ประกอบที่สำคัญ โดยหนึ่งในสิ่งจำเป็นที่ห้ามให้ขาดเลยเด็ดขาดเลยก็คือระบบกันซึมของอาคาร ที่จะทำหน้าที่ป้องกันการรั่วซึมของน้ำทั้งจากด้านนอกและข้างในตึก รวมถึงการช่วยป้องกันความร้อนแล้วก็กันซึมตามพื้นผิวภายในด้วย ด้วยเหตุนี้การเลือกน้ำยากันซึมให้เหมาะสมกับงานกันซึมที่พวกเราต้องการก็สำคัญมากเช่นกัน วันนี้จะมาแนะนำอย่างคร่าวๆว่าวัสดุแบบใดเข้ากับงานแบบไหนมากกว่ากัน

1. กันซึมดาดฟ้า
ดาดฟ้าเป็นโครงสร้างด้านนอกอาคารที่สำคัญมากที่สุด เพราะอยู่สูงที่สุด จะต้องรองรับทั้งความร้อนจากแดด ลม แล้วก็ฝน มีการเสี่ยงที่จะมีน้ำขังและก็ทำให้เกิดการรั่วซึมได้ง่ายที่สุดถ้าไม่ได้รับการป้องกันอย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่ตอนแรกเริ่มการก่อสร้าง ใครอีกหลายๆคนไม่รู้ว่าคอนกรีตอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการทำดาดฟ้า แต่ยังจำต้องเสริมเกราะปกป้องด้วยการทาน้ำยากันซึมบนดาดฟ้าอีกชั้นเพื่อปกป้องไม่ให้มีน้ำรั่วซึมลงไปตามรอยแตกร้าวของตึกได้





[url=https://www.homepro.co.th/c/CON0305]โพลียูริเทน
[/b] เป็นที่นิยมมากที่สุดสำหรับการทำกันซึมดาดฟ้า ด้วยคอนกรีตมีการยืดหดตัวอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งเกิดรอยร้าวได้ง่าย โพลียูริเทนนี้ซึ่งมีความยืดหยุ่นสูงมากที่สุดเมื่อเทียบกับวัสดุจำพวกอื่นๆจึงเหมาะกับการทำกันซึมดาดฟ้ามากที่สุด ป้องกันรอยแตกร้าวของคอนกรีตได้มากที่สุด ถึงแม้มีฝนตกต่อกันหลายวันก็เชื่อมั่นได้ว่าน้ำจะไม่รั่วซึมไปในตัวอาคาร แอบกระซิบบอกว่า ด้วยความที่เป็นวัสดุที่แข็งแรงมากขนาดนี้ ทำให้สามารถใช้กับงานส่วนประกอบภายในได้ด้วยเช่นกัน

2. กันซึมผนัง
ถ้าเอ่ยถึงโครงสร้างตึกที่จำต้องทนแดด ทนฝน ทนต่อทุกอุณหภูมิรองจากดาดฟ้าก็คือฝาผนังหรือกำแพงนั่นเอง ด้วยความที่จำต้องเจอกับสภาพอากาศที่หลากหลายทำให้เสี่ยงต่อการเกิดรอยแตกร้าวได้หากไม่ได้ป้องกันด้วยน้ำยากันซึมเช่นเดียวกันกับบนดาดฟ้า





อะคริลิคกันซึม มีคุณสมบัติใกล้เคียงกันกับโพลียูริเทน เพียงแต่ว่ามีความยืดหยุ่นน้อยกว่า มักใช้ในงานฉาบผนังอาคารเพื่อป้องกันการแตกร้าวและสร้างเสริมความแข็งแรงให้กับผนังอาคาร แต่ด้วยความที่วัสดุทั้งคู่ไม่ได้แตกต่างกันมากเท่าไรนัก อะคริลิคกันซึมก็เลยมักถูกใช้สำหรับดาดฟ้าหรือหลังคาของอาคารด้วยเช่นเดียวกัน

3. กันซึมพื้น/กระเบื้อง
บริเวณที่หากพูดเรื่องน้ำรั่วซึม จะไม่เอ่ยถึงไม่ได้คือพื้นนั่นเอง เนื่องจากบริเวณพื้นนี่แหละที่มีน้ำขังเยอะที่สุดรวมทั้งมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดน้ำรั่วซึมไปยังโครงสร้างส่วนอื่นๆของตึกมากยิ่งกว่าผนังเสียอีก ด้วยเหตุดังกล่าว น้ำยากันซึมสำหรับพื้นก็มีความจำเป็นสำหรับโครงสร้างของอาคารเหมือนกัน





โพลิเมอร์กันซึมสามารถใช้ได้อีกทั้งภายในตึกและภายนอกตึกที่มีวัสดุอื่นปิดทับ ด้วยความที่มีความยืดหยุ่นสูงรวมทั้งมีความสามารถในการทนทานแม้จะมีน้ำท่วมขังเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ทำให้สามารถทาทับบนกระเบื้องเก่าได้เลยโดยไม่ต้องรื้อถอนออกรวมทั้งสามารถทาสี หรือปูกระเบื้องทับได้

น้ำยากันซึมแต่ละชนิดมีคุณสมบัติต่างกันไป แล้วก็มีความเหมาะสมกับแต่ละภาวะผิวแตกต่างกัน ดังนั้น ควรจะเลือกใช้ให้เหมาะสมกันกับวัตถุประสงค์ที่ต้องการใช้ เพราะอย่างที่เกริ่นนำไว้ว่าระบบกันซึมของอาคารนับว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากขององค์ประกอบตึกทุกหลัง