͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทปิดตลาด “อ่อนค่า”ที่ระดับ 33.85 บาท/ดอลลาร์  (อ่าน 79 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ kaidee20

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 16453
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด


อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท “อ่อนค่า”ลงเช่นเดียวกับสกุลเงินเอเชียอื่นๆ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ มีปัจจัยหนุนจากข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่คาด

อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ระดับ 33.85 บาทต่อดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลงจากระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 33.79 บาทต่อดอลลาร์ฯกรอบการเคลื่อนไหวสัปดาห์หน้า ระหว่างวันที่  11-15ตุลาคม 2564 คาดไว้ที่ 33.40-34.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ

 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทอ่อนค่าลงเช่นเดียวกับสกุลเงินเอเชียอื่นๆ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ มีปัจจัยหนุนจากข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่คาด   และการขยับขึ้นของบอนด์ยีลด์ อย่างไรก็ดีกรอบการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ฯ ยังคงจำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังคงรอติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ

 


สำหรับสถานะการลงทุนของต่างชาติ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 481.36 ล้านบาท ขณะที่ขายสุทธิพันธบัตรไทยเล็กน้อยที่ 38 ล้านบาท 

 

ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 8 ตุลาคม 2564 โดยธปท. อยู่ที่ 0.14 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ 3.13 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์หน้า ระหว่างวันที่  11-15ตุลาคม 2564 คาดไว้ที่ 33.40-34.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จีน เม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ และสถานการณ์โควิด ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนส.ค. ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาสินค้านำเข้า/ส่งออกเดือนก.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือนต.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และบันทึกการประชุมเฟดเมื่อ 21-22 ก.ย. นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามข้อมูลเศรษฐกิจจีนเดือนก.ย. และผลการประชุมของธนาคารกลางเกาหลีใต้ด้วยเช่นกัน