นายกฤตวัฒน์ เตชะอุบล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจซีเค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(มหาชน) หรือ JCK เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ เตรียมขยายสู่ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัย
มุ่งหวังกระจายฐานรายได้ ลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงธุรกิจพัฒนานิคมอุตสาหกรรมและแวร์เฮ้าส์ เพื่อรักษาให้ผลประกอบการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับพื้นที่เป้าหมาย บริษัทฯมุ่งให้ความสำคัญพื้นที่ในจังหวัดภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงราย เนื่องจากเล็งเห็นว่ามีศักยภาพและโอกาสเติบโตได้อีกสูง พื้นที่อยู่ติดชายแดน จะกลายเป็นประตูสำคัญในการต้อนรับนักท่องเที่ยวและภาคเศรษฐกิจจากประเทศจีน ภายหลังรถไฟเส้นทางจากนครคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีน- นครหลวงเวียงจันทน์สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) กำหนดเปิดให้บริการภายในปลายปี2564 นี้ คาดว่าจะมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นภาคเศรษฐกิจ การขนส่ง และการท่องเที่ยวให้เติบโต
นอกจากนี้ เป็นจังหวะเดียวกับการที่รัฐบาลมีนโยบายจะแก้ไขกฎหมายขยายเพดานให้ชาวต่างชาติถือครองกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยได้มากขึ้น คาดว่าจะมีส่วนสำคัญก่อให้เกิดความต้องการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดเชียงราย
“ด้วยปัจจัยข้างต้นจะทำให้เชียงรายกลายเป็นประตูในการเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวจีน เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ บริษัทฯเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจดังกล่าว และได้เตรียมที่ดิน 4-5 แปลง ตั้งอยู่ในเขตเมืองของจังหวัดเชียงรายทั้งหมด พื้นที่รวมกันราว 200-300 ไร่ เพื่อพัฒนาทาวเฮ้าส์ ราคา 2-3 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว ราคา 8-10 ล้านบาท กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักจะเป็นชาวจีนซึ่งมีกำลังซื้อสูง และประชาชนในท้องถิ่น”นายกฤตวัฒน์ กล่าว
บริษัทฯคาดว่าจะเริ่มพัฒนาโครงการแรกได้ในช่วงต้นปี 2565 และคาดหวังว่าจะทำให้บริษัทฯมีรายได้จากการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เข้ามาเสริม นอกเหนือไปจากธุรกิจพัฒนานิคมอุตสาหกรรม