“
Asia Buffet อร่อยครบ จบที่เอเชีย” สโลแกนของร้าน “เอเชีย บุฟเฟ่ต์” แห่ง จ.สมุทรสาคร นำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในวงการ ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย อีสาน ญี่ปุ่น และยุโรป สร้างความประทับใจให้ลูกค้าทุกเพศทุกวัยที่เข้ามารับประทาน แต่ด้วยพิษโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง เป็นที่มาของการปรับธุรกิจ หันมาให้บริการ “เดลิเวอรี่” ควบคู่กับใช้บริการสินเชื่อดอกเบี้ย 1% ใน “โครงการสนับสนุน SMEs รายย่อย” ของ สสว. และ SME D Bank ช่วยให้ธุรกิจยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้ และรอกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง
ไพโรจน์ รุจิวงศ์ หุ้นส่วน บริษัท เอเชีย บาร์บีคิว (2009) จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารหมูย่างเกาหลี และอาหารตามสั่งทุกชนิด จ.สมุทรสาคร เล่าย้อนถึงความเป็นมาของธุรกิจ ว่า เริ่มเข้าทำธุรกิจร้านอาหาร โดยเปิดร้าน “เอเชีย หมูกระทะ” ดำเนินธุรกิจต่อเนื่องเรื่อยมาเป็นเวลากว่า 17 ปี
กระทั่งเมื่อประมาณ ปี 2561 มองเห็นถึงทิศทางการเติบโตของธุรกิจใกล้ถึงจุดอิ่มตัว เนื่องจากโอกาสการทำกำไรที่ลดลง ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนธุรกิจอีกครั้ง พลิกโฉมรูปแบบและเมนูเป็นสไตล์ “เอเชีย บุฟเฟ่ต์” ร้านอาหารบริการบุฟเฟ่ต์พรีเมียม ราคาเริ่มต้นที่ 499 บาท อาศัยความเชี่ยวชาญและความชำนาญที่อยู่ในวงการมายาวนาน กลายเป็นจุดแข็งที่สามารถจัดหาวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมจากซัพพลายเออร์ได้หลากหลาย ทั้งสด สะอาด และปลอดภัย สร้างความคุ้มค่าให้กับผู้บริโภคที่ต้องการเข้ามารับประทาน
ทั้งนี้ “เอเชีย บุฟเฟ่ต์” ถือเป็นโอกาสของธุรกิจ ด้วยประสบการณ์และการวิเคราะห์ข้อมูลของบริษัท แม้กำลังซื้อและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ระมัดระวังการใช้จ่ายก็ตาม แต่ก็พร้อมที่จะเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณภาพ ทำให้เห็นช่องทางการทำธุรกิจ ประกอบกับนำอุปสรรคต่างๆ ที่เคยเผชิญมาปรับใช้ สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุดและรวดเร็ว ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างครบถ้วน
อีกทั้งจุดเด่นคือ การใส่ใจทุกกระบวนการทุกขั้นตอน เพื่อผู้บริโภคได้รับประโยชน์สูงสุด ด้วยมาตรฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการบริการ สถานที่ ที่มีการปรับเปลี่ยนและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า โดยเฉพาะอาหารที่มีความหลากหลายมากกว่า 100 เมนู ทั้งอาหารไทย อีสาน ญี่ปุ่น และยุโรป ทำสดใหม่จานต่อจาน
“เราให้ความสำคัญกับหน้าตาของอาหารทุกเมนู เมื่อเสิร์ฟแล้วต้องร้องว๊าว ปรุงสดใหม่จานต่อจาน พร้อมตกแต่งให้น่ารับประทานมากขึ้น ทำให้ได้รับความชื่นชมจากผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก สอดคล้องกับยุคที่มีโซเชียลมีเดียที่ผู้บริโภคให้ความสนใจถ่ายภาพอาหารพร้อมเช็คอินร้านค้า ถือเป็นการทำตลาดอีกทางหนึ่ง นอกจากจะสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าแล้ว ยังช่วยให้เกิดการบอกต่อในวงกว้าง ขยายฐานลูกค้ารายใหม่ ทำให้ร้านของเราเป็นที่รู้จักมากขึ้น ดูได้จากยอดคนติดตามในเพจเฟซบุ๊ก “เอเชีย บุฟเฟ่ต์” ที่ปัจจุบันมีมากกว่า 100,000 ราย”
จากความนิยมที่ได้รับการตอบรับที่ดีของลูกค้า ปัจจุบันได้ขยับขยายร้านใหม่ ปรับเปลี่ยนทำเลที่อยู่ใกล้ที่เดิม แต่กว้างขวางมากขึ้น สามารถเพิ่มที่นั่งรองรับการเข้ามาใช้บริการ จากเดิม 80-100 ที่นั่ง เป็น 120-200 ที่นั่ง ช่วยให้บริหารจัดการธุรกิจได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น ส่วนกลุ่มลูกค้า จากการเก็บข้อมูลเชิงลึก พบว่าลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการส่วนใหญ่ จะเป็นอยู่ในกรุงเทพฯ ประมาณ 65% และผู้บริโภคในพื้นที่โดยรอบ ไม่ว่าจะเป็น จ.สมุทรสาคร และ จ. นครปฐม ประมาณ 35% ซึ่งมองเห็นช่องทางในการทำธุรกิจในอนาคต
หลังจากธุรกิจที่ดำเนินมาด้วยดี แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ก็ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างมาก ตั้งแต่แพร่ระบาดครั้งแรก เนื่องจาก “เอเชีย บุฟเฟ่ต์” ที่เพิ่งเปิดให้บริการเพียง 4-5 เดือนเท่านั้น ต้องปิดให้บริการชั่วคราวตามมาตรการของภาครัฐ ทำให้วัตถุดิบที่สต๊อกไว้เกิดความเสียหาย แต่ส่วนหนึ่งเป็นการสอนให้ได้เรียนรู้ถึงการบริหารจัดการสต๊อกสินค้า ควบคู่กับการจัดทำการตลาด ผ่านการจัดโปรโมชั่นจำหน่ายคูปองที่มีส่วนลด ที่สามารถนำมาใช้ในเดือนถัดไป ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค หากเข้ามารับประทานในราคาปกติจะอยู่ที่ 499 บาท แต่ถ้าซื้อคูปอง 5 ใบ จะมีราคาเฉลี่ยที่ใบละ 399 บาทเท่านั้น นอกจากจะมอบส่วนลดให้กับลูกค้า ยังช่วยให้บริหารจัดการสภาพคล่องได้อย่างต่อเนื่อง
ที่สำคัญจะช่วยให้เชื่อมั่นใจการเดินหน้าธุรกิจ จากการตอบรับของลูกค้าเป็นอย่างดี สะท้อนถึงสถิติของการจำหน่ายคูปอง เมื่อเทียบกับครั้งแรกที่เริ่มทำตลาด ใช้เวลากว่า 3 วันถึงจะจำหน่ายคูปองหมด แต่ปัจจุบันในการจัดโปรโมชั่นแต่ละครั้งสามารถจำหน่ายในระยะเวลาที่สั้นลงเพียง 7 วินาทีเท่านั้น
สำหรับโควิด-19 ระลอกที่ 3 ที่มีมาตรการของภาครัฐที่ป้องกันการแพร่ระบาดนั้น ทางร้านต้องปรับเปลี่ยนการจำหน่ายอาหาร จากหน้าร้านที่ไม่สามารถเปิดขายได้ หันมาจำหน่ายอาหารผ่านช่องทางเดลิเวอรี่แทน แม้ช่องทางนี้จะไม่สามารถชดเชยยอดขายจากการเปิดร้านก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้ร้านค้ายังมีรายได้เข้ามาบ้าง ส่วนเมนูอาหารแบ่งเป็น 2 แบบ ได้แก่ ข้าวถัง ที่มีเมนูมากกว่า 20-30 รายการ เช่น ข้าวผัดกุ้ง ข้าวกระเพราหมู หรือเนื้อ ข้าวคลุกกะปิ หรือสปาเก็ตตี้ คาโบนาร่า เป็นต้น ราคาเริ่มต้น 59 บาท หรือบาบีคิว พรีเมียม มีทั้งแบบย่างให้ หรือย่างเอง ราคาเริ่มต้นที่ 99 บาท
นอกจากนั้น “เอเชีย บุฟเฟ่ต์” ยังเลือกใช้บริการด้านการเงินจากภาครัฐ ใน“โครงการสนับสนุน SMEs รายย่อย” ดอกเบี้ยเพียง 1% ต่อปี ของ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ที่มีขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ช่วยต่อลมหายใจให้ธุรกิจร้านอาหาร มีเงินทุนหมุนเวียน มีสภาพคล่อง นำมาปรับปรุง หรือเดินหน้ากิจการได้อีกครั้ง
“ถือเป็นความโชคดีของบริษัทที่เคยลงทะเบียนเป็นสมาชิก สสว. ควบคู่กับการทำงานของเจ้าหน้าที่ SME D Bank ที่มาเชิญชวน และให้คำแนะนำเตรียมเอกสารอย่างใกล้ชิด ทำให้การเข้าถึงสินเชื่อครั้งนี้เกิดความคล่องตัวอย่างมาก ทำให้เราได้เงินทุนมาเสริมสภาพคล่อง เพื่อรอธุรกิจกลับมาเดินหน้าได้เต็มตัวอีกครั้งในเร็ววัน สำหรับเพื่อนผู้ประกอบการร้านอาหารที่กำลังต้องการเงินทุน ขอเชิญชวนให้มาใช้บริการในโครงการนี้”
แผนงานในอนาคตของ “เอเชีย บุฟเฟ่ต์” คือการต่อยอดธุรกิจให้กว้างขวางมากขึ้น เบื้องต้นอยู่ระหว่างการศึกษาการขยายแฟรนไชส์ให้กับผู้ประกอบการรายอื่นที่สนใจนำแบรนด์ “เอเชีย บุฟเฟ่ต์” ไปเปิดให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ สอดคล้องกับสถิติที่เราเก็บไว้ หากสามารถขยายสาขาตามพื้นที่ต่างๆ ได้มากขึ้น ถือเป็นการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจในระยะยาว ควบคู่กับการปรับตัวเรียนรู้กับสถานการณ์โควิดที่ยังคงอยู่ ด้วยการสร้างมาตรฐานร้านค้าให้มีความปลอดภัยสูงสุด เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้หรือบริการเกิดความเชื่อมั่น
สนใจติดต่อ โทร.096-7297799 / 034-473603 , เฟซบุ๊ก : เอเชีย บุฟเฟ่ต์ , ไลน์ : @asiabuffet