เอลซัลวาดอร์กลายเป็นประเทศแรกที่นำ Bitcoin เป็นสกุลเงินประจำชาติในวันอังคารที่ 7 กันยายน 2564 โดยเริ่มต้นการทดลองทางการเงินที่มีแนวโน้มผันผวนสูงซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจที่เปราะบาง
จากการรายงานของ CNN Business ระบุว่าประธานาธิบดี Nayib Bukele ประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ 6 กันยายน 2564 ว่ารัฐบาลของเขาได้อนุมัติเงินเพื่อซื้อ Bitcoin อีกเป็นจำนวนกว่า 200 เหรียญก่อนที่จะมีการประกาศยอมรับสกุลเงินอย่างเป็นทางการของเอลซัลวาดอร์ ซึ่งปัจจุบันเอลซัลวาดอร์ได้ถือครอง Bitcoin อยู่ที่ 400 เหรียญ ซึ่งมีมูลค่าเกือบ 21 ล้านดอลลาร์ในระดับการซื้อขายในปัจจุบัน
ทั้งนี้ Bitcoin จะถูกใช้เป็นเงินที่ถูกกฎหมายในเอลซัลวาดอร์ควบคู่ไปกับดอลลาร์สหรัฐโดยเริ่มประกาศใช้ตั้งแต่วันอังคารที่ 7 กันยายน 2564 ซึ่ง Bukele ทวีตว่า "จะซื้ออย่างต่อเนื่องจนกว่าจะถึงเส้นตายเพดานการเงิน"
ขณะที่ Bukele นักประชานิยมฝ่ายขวาที่ขึ้นสู่อำนาจในปี 2562 ประกาศแผนการที่จะเริ่มใช้ Bitcoin ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งกฎหมายกำหนด Bitcoin เป็นกฎหมายว่า "ตัวแทนทางเศรษฐกิจ" ทั้งหมดจะต้องยอมรับสกุลเงินดิจิทัลเป็นรูปแบบการชำระเงิน นอกจากนี้ยังกล่าวว่าการชำระภาษีสามารถทำได้ใน Bitcoin
ด้านชาวซัลวาดอร์จะสามารถดาวน์โหลด "กระเป๋าเงิน Chivo" ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่สร้างขึ้นโดยรัฐบาล โดยหลังจากที่ประกาศใช้ Bitcoin เป็นเงินตามกฏหมาย รัฐบาลเตรียมที่จะแจก bitcoin มูลค่า 30 ดอลลาร์แก่ประชาชนในประเทศเพื่อเป็นของขวัญและกระตุ้นการใช้งาน
"กระบวนการของ #Bitcoin ในเอลซัลวาดอร์มีช่วงการเรียนรู้ ทุกย่างก้าวสู่อนาคตเป็นเช่นนี้ และเราจะไม่บรรลุทุกสิ่งในวันเดียวหรือในหนึ่งเดือน" Bukele ทวีต “แต่เราต้องทำลายกระบวนทัศน์ในอดีต”
ขณะเดียวกันพลเมืองบางคนยอมรับเทคโนโลยีนี้ ในขณะที่บางคนก็ระมัดระวัง โดย José Abraham Cerón คนทำขนมปังบอกกับ CNN ว่าการจัดการกับ Bitcoin นั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ Blanca Estela Ponce เจ้าของร้านตอร์ตียาที่อยู่ใกล้ๆ บอกว่าเธอชอบเงินสดมากกว่า
"Bitcoin เป็นสิ่งใหม่และเราไม่มีข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับเรื่องนี้" Ponce กล่าวกับ CNN
เอลซัลวาดอร์ร่วมมือกับ Strike บริษัทการเงินดิจิทัลเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น
อย่างไรก็ดีการที่ Cryptocurrencies ถูกเก็บไว้ในกระเป๋าเงินดิจิทัลมากกว่าผ่านบัญชีธนาคารแบบดั้งเดิม ซึ่งหมายความว่าผู้คนในชุมชนที่ยากจนกว่าซึ่งเข้าถึงธนาคารได้น้อยสามารถใช้ bitcoin เป็นวิธีในการเข้าถึงการเงินของพวกเขาได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม องค์กรทางสังคมได้ขอให้รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ยกเลิกกฎหมาย ส่วนใหญ่เพราะพวกเขากลัวความผันผวนที่รุนแรงของสกุลเงินดิจิทัล
ทั้งนี้ Bitcoin ได้ฟื้นคืนพื้นที่บางส่วนที่หายไปหลังจากความผิดพลาดครั้งใหญ่เมื่อต้นปีนี้ แต่ก็ยังต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เกือบ 65,000 ดอลลาร์ในเดือนเมษายน ราคาอยู่ที่ 51,360 ดอลลาร์ในวันอังคาร ลดลง 0.7% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตามข้อมูลของ Coinbase
ด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศซึ่งให้เงินกู้ฉุกเฉินแก่เอลซัลวาดอร์เมื่อปีที่แล้วและขณะนี้กำลังเจรจาการให้กู้ยืมอีกรอบ มีมุมมองเชิงลบต่อการใช้ bitcoin เป็นกฎหมาย โดยกล่าวว่าการทำเช่นนั้นทำให้เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจ การเงิน และกฎหมายจำนวนมาก
“เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราเก็บภาษีอะไรเมื่อ Bitcoin ขึ้นและ Bitcoin ลดลง เราจะวางแผนค่าใช้จ่ายอย่างไร จำได้ไหมว่าในเดือนเมษายน Bitcoin ทะลุ $65,000 และลดลงเกือบครึ่งหนึ่ง นั่นคือปัญหาที่กระทรวงการเงินกำลังถกเถียงกันอย่างหนัก และมันไม่ง่ายเลย” คริสตาลินา จอร์จีวา กรรมการผู้จัดการ IMF กล่าวเมื่อเร็วๆ นี้
ขณะเดียวกันหากย้อนกลับไปในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม Moody's Investors
Lottovip Service ได้ผลักดันอันดับหนี้ของเอลซัลวาดอร์ให้ดิ่งลึกลง โดยอยู่ในระดับ "ขยะ" โดยอ้างว่า "คุณภาพในการกำหนดนโยบายแย่ลง" รวมถึงการตัดสินใจของรัฐบาลในการนำ bitcoin มาใช้เป็นเงินที่ถูกกฎหมาย
มูดี้ส์กล่าวว่า ประเทศยังคงอ่อนไหวต่อการจัดหาเงินทุนที่อาจกระทบต่อความสามารถของรัฐบาลในการชำระคืนเจ้าหนี้โดยเริ่มตั้งแต่มกราคม 2023
ขณะที่รัฐบาลเอลซัลวาดอร์เองก็กำลัง.ว่าการใช้ bitcoin เป็นเงินที่ถูกกฎหมายจะดึงดูดการลงทุนใหม่หรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังหวังที่จะลดค่าคอมมิชชั่นที่จ่ายสำหรับการส่งเงินจากต่างประเทศอีกด้วย