เมื่อวันที่ 23 ส.ค.สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดย ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ร่วมกับ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) จัดให้มีพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ร่วมมือกันดำเนิน “
โครงการ Data Science@School with GLOBE” เพื่อส่งเสริมครูและนักเรียนในการเรียนรู้สิ่งแวดล้อมอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ผ่านการลงมือตรวจวัดสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นของตนตามหลักวิธีดำเนินการของ GLOBE และส่งเสริมการทำงานวิจัยระดับนักเรียน ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งในการพัฒนาสมรรถนะหลักที่สำคัญของนักเรียน มีการเรียนรู้ และเกิดความตระหนักถึงสภาพและปัญหาสิ่งแวดล้อม และร่วมกันรับผิดชอบ ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของโลก ที่จะร่วมมือ ป้องกัน แก้ไข และดูแลรักษาทรัพยากร ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไป
ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กล่าวว่า “สสวท. ในฐานะองค์กรหลักของประเทศในการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของครูและนักเรียน โดยได้พัฒนาหลักสูตร สื่อ และกระบวนการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี แก่ครูและนักเรียนทุกระดับการศึกษา ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างรอบด้านควบคู่กับการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะพัฒนานักเรียนให้เกิดทักษะ สมรรถนะที่สำคัญ และความสามารถในการเรียนรู้ที่สอดรับกับทักษะในศตวรรษที่ 21 รวมทั้งการสร้างความตระหนักรู้ในบริบทของโลกและทรัพยากรธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ผ่านการเรียนรู้สิ่งแวดล้อมร่วมกันระหว่างนักเรียน ครู นักวิทยาศาสตร์ และชุมชน โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และหลักวิธีดำเนินการตรวจวัดของ GLOBE ที่เป็นมาตรฐานสากล ซึ่ง GLOBE เป็นโครงการความร่วมมือนานาชาติที่สนับสนุนโดยองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ องค์การนาซา (NASA) มี สสวท. ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานระหว่างประเทศ ส่งเสริมให้นักเรียนลงมือตรวจวัดสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นของตน และส่งเสริมการทำงานวิจัยระดับนักเรียน จนเกิดเป็นทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต สสวท. จึงได้ร่วมมือกับศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ดำเนินงานโครงการ Data Science@School with GLOBE ที่เป็นกำลังที่เข้มแข็งในการส่งเสริมให้ครูและนักเรียนได้ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมทั้งการใช้ โปรแกรมทางด้าน Coding เพื่อเรียนรู้และเข้าใจสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นการร่วมพลังที่สำคัญในการพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 และสมรรถนะที่สำคัญของนักเรียนให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ กล่าวว่า “สิ่งที่เนคเทค-สวทช. จะเดินหน้าร่วมกันในวันนี้ คือ ผลงานวิจัยพัฒนาที่ก่อร่างสร้างเป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญของประเทศไทย ได้แก่ KidBright ที่เป็นเครื่องมือและโปรแกรมทางด้าน Coding, BigStream ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มทางด้าน Big Data และเทคโนโลยีทางด้าน IoT ที่ชื่อว่า NETPIE มาบูรณาการร่วมกันเป็น “ระบบอุตุน้อย” ซึ่งประกอบด้วย สถานี UtuNoi (หรือสถานีตรวจวัดสภาพอากาศขนาดเล็ก) พร้อมเว็บแอปพลิเคชัน UtuNoi WATCH และ UtuNoi PLAYGROUND ภายใต้โครงการ Data Science@School กับ สพฐ. ต่อมาเกิดความร่วมมือกับ สสวท. จนเป็นโครงการ Data Science@School with GLOBE และเราจะจัดให้มีการอบรมการใช้งานระบบอุตุน้อยให้แก่ครูที่ร่วมโครงการ พร้อมการสนับสนุนและร่วมมือกับ สสวท. ในการส่งเสริมและส่งผลงานวิจัยระดับนักเรียนเข้าร่วมการประกวดงานวิจัยทางด้านสิ่งแวดล้อมที่จัดขึ้นโดย สสวท. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเราได้ร่วมกันสร้างรากฐานที่สำคัญ ในการพัฒนาเยาวขนและนวัตกรรมของประเทศไทย สามารถพึ่งพาเทคโนโลยี องค์ความรู้ และนวัตกรรม ภายในประเทศให้ขยับสูงขึ้นเป็นลำดับ”
ความร่วมมือที่เกิดขึ้นในวันนี้ จะได้ช่วยส่งเสริมให้ครูและนักเรียน ได้เรียนรู้สิ่งแวดล้อมอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ผ่านการลงมือปฏิบัติจริงและการทำงานวิจัยวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม มีการติดตั้งสถานีอุตุน้อยในโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ มีการพัฒนาข้อมูลตรวจวัดสิ่งแวดล้อมที่เชื่อถือได้ เผยแพร่และส่งเข้าสู่ฐานข้อมูล GLOBE ของ The GLOBE Program เพื่อการศึกษาทางด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ นักเรียนมีความรู้ความสามารถในการตรวจวัดและเก็บข้อมูลสิ่งแวดล้อมตามหลักวิธีดำเนินการตรวจวัดของ GLOBE ได้อย่างถูกต้อง และนำไปบูรณาการในชั้นเรียน ต่อไป